บล.กสิกรฯให้แนวรับ 1,460 ลุ้นการเมืองชี้นำหุ้นสัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้แนวรับที่ 1,475 และ 1,460 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,520 และ 1,545 จุด เคลื่อนไหวตาม 3 ปัจจัย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์การเมืองไทย ด้านค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 34.80-35.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (10-14 ก.ค.2566) ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,475 และ 1,460 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,520 และ 1,545 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์การเมืองไทย

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย.รายงาน Beige Book ของเฟด รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ตัวเลขนำเข้าและส่งออก

ดัชนีหุ้นปรับตัวลงหลุดแนว 1,500 จุด หลังจากที่ขยับขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันตอบรับความคืบหน้าทางการเมือง การโหวตประธานสภาฯ แต่หุ้นปรับตัวลงในเวลาต่อมาตามทิศทางหุ้นต่างประเทศ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด  ประกอบกับนักลงทุนมีความระมัดระวังระหว่างรอติดตามประเด็นความคืบหน้าทางการเมืองในสัปดาห์หน้า โดยนักลงทุนต่างชาติอยู่ในฝั่งขายสุทธิหุ้นไทยทุกวันตลอดสัปดาห์นี้

ในวันศุกร์ที่ 7 ก.ค.2566 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,490.51 จุด ลดลง 0.84% จากปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 39,313.94 ล้านบาท ลดลง 15.81% ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.37% มาปิดที่ระดับ 458.09 จุด

ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (10-14 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 34.80-35.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ  หลังจากสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวผันผวน โดยขยับแข็งค่าในช่วงแรกผ่านแนว 35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ  โดยมีแรงหนุนหลังการเปิดประชุมสภาฯ ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องจากข้อมูลดัชนีราคา PCE และ Core PCE ของสหรัฐฯ ล่าสุดในเดือนพ.ค. ที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้เงินบาทยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกและอ่อนค่ากลับมาในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ขณะที่ตลาดยังคงรอติดตามความคืบหน้าในประเด็นอื่นๆ ของการเมืองไทย ส่วนเงินดอลลาร์ฯ ทยอยฟื้นตัวขึ้น หลังบันทึกการประชุมเฟดและข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ที่ออกมาดีกว่าที่คาดหนุนโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในการประชุม FOMC เดือนก.ค. นี้

ในวันศุกร์ที่ 7 ก.ค. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.24 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 35.46 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (30 มิ.ย.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนระหว่างวันที่ 3-7 ก.ค. 2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 8,010 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 10,043 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 15,432 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 5,389 ล้านบาท)