HoonSmart.com>> “บี.กริม เพาเวอร์” (BGRIM) เผยไตรมาส 2/67 กำไรสุทธิ 228.52 ล้านบาท กำไรดำเนินงาน 597 ล้านบาท ชะลอลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เติบโต 20.9% จากไตรมาสแรก จากขายไฟเพิ่มขึ้น ส่วนต้นทุนเงิน-ภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น คาดราคาก๊าซปีนี้อยู่ในช่วง 320-350 บาทต่อล้าน BTU ลดลงจากเฉลี่ย 377.31 บาทในปีก่อน ครึ่งปีหลังเปิด COD 3 โครงการ ผนึกพันธมิตรขยายลงทุน เพิ่มพอร์ตพลังงานหมุนเวียนสู่เป้าหมาย Net Zero บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลกลางปีนี้ 0.18 บาท
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยผลประกอบการงวดไตรมาสที่ 2/2567 มีกำไรสุทธิ 228.52 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.01 บาท ลดลง 66.3%เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 679.23 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.18 บาท
งวด 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไร 607.17 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.07 บาท ลดลง 43.7% เทียบกับกำไรสุทธิ 1,079.36 ล้านบาทหรือ 0.29 บาทต่อหุ้นในช่วงเดียวกันปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2 บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงาน 597 ล้านบาท เติบโต 20.9% จากไตรมาส 1/2567 โดยปัจจัยหลักมาจากปริมาณการขายไฟให้กับกฟผ.ที่เพิ่มสูงขึ้น ราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลงรวมทั้งส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและกำไรร่วมค้าที่เติบโต จากผลประกอบการที่ดีขึ้นของ 3 โรงไฟฟ้า SPP ภายใต้ UVBGP แต่กำไรจากการดำเนินงานลดลง 13.1% จากงวด
เดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการหมดอายุของสิทธิประโยชน์ทาง
ภำษีสำหรับโครงการโรงไฟฟ้า 3 โครงการ
” กำไรที่ลดลงในไตรมาสที่ 2 ลดลงจากผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่งไม่กระทบกระแสเงินสดจากการแปลงมูลค่าเงินกู้ยืมสกุลดอลลาร์สหรัฐด้วยอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นงวด จากค่าเงินบาทและเวียดนามดองที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์สหรัฐ คาดการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติต่อหน่วยสำหรับ SPP ยังคงอยู่ในช่วง 320-350 บาทต่อล้าน BTU ในปี 2567 เมื่อเทียบกับที่ 377.31 บาทต่อล้าน BTU ในปี 2566″
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 2/2567 บี.กริม เพาเวอร์ ได้เชื่อมเข้าระบบของลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) รายใหม่ในประเทศไทย จำนวน 5.2 เมกะวัตต์ จากกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ รวมครึ่งปีแรกทั้งสิ้น 11.2 เมกะวัตต์
สำหรับการขยายการลงทุนในไตรมาส 2 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในระยะยาว บริษัท BGP Holding (US) (บริษัทย่อยทางอ้อมของ บี.กริม เพาเวอร์) ได้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Malacha ในตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังการผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์ และมีแผนขยายการเข้าซื้อและพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในตลาดพลังงานในรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ บริษัท RES
Company Sicilia S.r.l. (บริษัทย่อย) เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท LT09 S.r.l. เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน “Ortanova 2” กำลังการผลิต 73.26 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐอิตาลี และล่าสุดใน ก.ค. B.Grimm Power Pty. (บริษัทย่อย) ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในNemaroo Bimbi Wind Farm Pty. เพื่อพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนและ Energy Hub
ทางตอนเหนือของรัฐ Queensland ประเทศออสเตรเลีย
ส่วนกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรก เติบโต 2.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 1,091 ล้านบาท และ EBITDA เติบโต 8.0% ที่ 7,548 ล้านบาท จากปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 10.4% ที่ 7,576 กิกะวัตต์-ชั่วโมง จากปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ กฟผ. เพิ่มขึ้น 14.9% จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า SPP 3 โครงการ ในไตรมาสที่ 1 และ 4 ปี 2566 รวมกำลังการผลิตติดตั้ง
420 เมกะวัตต์ และปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม (IUs) ในประเทศเวียดนามที่เพิ่มขึ้น 8.2% รวมทั้งปริมาณขายไอน้ำที่เติบโตขึ้น 16.4% จากการขยายกำลังการผลิตของลูกค้าเดิม และความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนามากกว่า 1 กิกะวัตต์ โดยในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ อู่ตะเภา เฟสหนึ่ง 2. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GIFUในประเทศญี่ปุ่น และ 3. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม แบบติดตั้งบนบก KOPOS ใน
สาธารณรัฐเกาหลี
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า เป้าหมายระยะยาว บี.กริม เพาเวอร์ตั้งเป้าสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลกและบรรลุเป้าหมายการก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ภายในปี 2593 ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตเป็น 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 โดยมีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50%
ด้านคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ปี 2567 อัตราหุ้นละ 0.18 บาทให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อได้รับปันผล (Record date) วันที่ 27 ส.ค. 2567 และขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 ส.ค. 2567 กำหนดจ่ายเงินวันที่ 6 ก.ย. 2567
ด้านราคาหุ้น BGRIM ปรับตัวลง 1.60 บาทหรือ-7.11% ซื้อขายที่ 20.90 บาท ณ เวลาประมาณ 11.20 น. ของวันที่ 13 ส.ค.2567