HoonSmart.com>>”วิทัย รัตนากร” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สมัยที่ 2 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2567 ประกาศแผนยุทธศาสตร์ 4 ปี (2568 – 2572) ก้าวต่อไปจะยังคงจุดยืนการเป็นธนาคารเพื่อสังคม หรือ Social Bank ตั้งเป้าปรับลดกำไรลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม เช่นประมาณ 20-30% เพื่อขยายผลการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม (Social Impact) ช่วยเหลือประชาชนและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้จริงมากขึ้น ยกระดับสนับสนุนนโยบายรัฐ ผ่านการทำงานร่วมกับบริษัทลูก 4 แห่ง
” ภารกิจเรื่องทำกำไรก็สำคัญ แต่ลดลงได้ สร้างกำไรพอเหมาะพอ เน้นอิมแพคช่วยสังคมที่เกิดขึ้นจริง ช่วยลูกค้าเท่ากับช่วยสังคม ช่วยคนตัวเล็กจริง โปร่งใสจริง ทุกอย่างผมทำเองไม่ได้หรอก หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่ได้เห็นชอบการปรับเป้าหมายการดำเนินงาน ทำให้ธนาคารสามารถออกมาตรการหรือจัดทำโครงการที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกได้มากขึ้น อาทิ โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ รวมถึงมาตรการลดดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย และแก้ปัญหาหนี้สิน “
ธนาคารออมสินมีบทบาทพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ได้แก่ 1) บทบาทการเพิ่ม/ขยายโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง 2) บทบาทการแก้ปัญหาหนี้สิน 3) บทบาทการพัฒนาชุมชน/สังคม และ 4) บทบาทการสนับสนุนภาครัฐดำเนินนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นบทบาทใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนขยายผลการสร้าง Social Impact ทั้งในเชิงลึกและวงกว้างมากขึ้น เป็นการทำให้เกิดความชัดเจนว่าบทบาทการช่วยเหลือสังคมทั้ง 4 ด้าน มีความสำคัญเหนือกว่าภารกิจการสร้างอัตรากำไรทางธุรกิจ
นอกจากนี้ ธนาคารวางแผนเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแห่งแรก ที่มีการบริหารงานแบบกลุ่มธุรกิจกับบริษัทในกลุ่ม ประกอบด้วย บริษัท มีที่มีเงิน ให้บริการสินเชื่อที่ดินและขายฝาก บริษัท บริหารสินทรัพย์ (AMC) อารีย์ ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการหนี้ NPLs และ NPAs บริษัท เงินดีดี ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลกลุ่มลูกค้าฐานราก ผ่านแอปพลิเคชัน “Good Money” และบริษัท จีเอสบี ไอที แมเนจเมนท์ ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับความสามารถด้านเทคโนโลยีสนับสนุนธนาคาร
จากความสำเร็จของ “ธนาคารเพื่อสังคม” ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารออมสินมีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 33,541 ล้านบาทในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากระดับกำไรสุทธิ 31,120 ล้านบาทในปี 2560 มีความมั่นคงแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจด้วยเงินสำรองรวมเพิ่มขึ้นแตะระดับ 125,948 ล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน และตั้งสำรองจำนวน 64,044 ล้านบาท คิดเป็น 16 เท่า รองรับหนี้เสียได้มากกว่า 1 แสนล้านบาท และมีฐานลูกค้ารวม 24 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้าสินเชื่อจำนวน 5.23 ล้านคน
ปัจจุบันธนาคารสามารถสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม มีผู้ได้รับประโยชน์ผ่านโครงการและมาตรการต่าง ๆ เช่น การช่วยประชาชนกลุ่มเครดิตต่ำและไม่มีเครดิตให้เข้าถึงแหล่งเงินในระบบแล้วกว่า 3 ล้านคน มีผู้เข้าถึงดอกเบี้ยที่เป็นธรรมแล้วกว่า 5 ล้านคน เป็นต้น การเดินหน้าภารกิจตามจุดยืนธนาคารเพื่อสังคม และตั้งเป้าขยายผลการสร้าง Social Impact ในอีก 4 ปีข้างหน้า จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม
” เราสร้าง Impact การลดดอกเบี้ยในตลาดของการจำนำรถจักรยานยนต์ลงประมาณ 10% จากที่เคยจ่าย 28% เหลือ 16-18% ปล่อยสินเชื่อผ่านบริษัทลูก ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย (MRR) ลง 0.40% แม้ว่าดอกเบี้ยนโยบายไม้ได้ลดลงก็ตาม คาดว่าจะโอนหนี้ให้ AMC 4.5 แสนบัญชี โดยในช่วง 1 ปี จะทยอยโอนได้ 1.4 แสนล้านบัญชี เราจะขยายการช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยง ลดหนี้ ลดดอกเบี้ย จากเดิมที่ไม่กล้าเข้าไปหรือเข้าไม่ถึง ตอนนี้จะเข้าไป แม้จะเกิด NPLs บ้าง แต่ไม่ได้เอาเงินจากรัฐบาลมาช่วย ใช้กำไร ช่วยให้คนเข้าถึงเงินในระบบเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านคน สิ่งที่ธนาคารออมสินเดินมา คนภายนอกเห็นและยินดีด้วย ทำให้ได้รับรางวัลเกียรติยศมากถึง 125 รางวัลตั้งแต่ปี 2563- เดือนก.ค.2567 โดยเป็นรางวัลระดับอินเตอร์เนชั่นแนล 25 รางวัล”นายวิทัยกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ