“คิงส์ฟอร์ด”คาดแนวต้านดัชนี 1,300 – 1,310 จุด แนะ OSP-BDMS

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด แนวโน้มหุ้นวันนี้ได้แรงหนุนหลังความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยลดลง หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงต่ำกว่าคาด แต่ Upside ดัชนียังจำกัด รอคำวินิจฉัยคุณสมบัตินายกฯ 14 ส.ค. มองแนวต้าน 1,300 – 1,310 จุด แนวรับ 1,285 – 1,290 จุด พร้อมเสิร์ฟหุ้น OSP-BDMS

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,285 – 1,290 จุด แนวต้าน 1,300 – 1,310 จุด คาดได้แรงหนุนหลังความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยลดลง แต่ Upside ยังจำกัดเนื่องจากยังรอคำวินิจฉัยคุณสมบัตินายกฯ ในวันที่ 14 ส.ค. แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอาหาร เช่น CPF,TU,TFG,GFPT,ITC ASIAN,AAI,SNNP คาดกำไรเติบโตดีตามอุปสงค์ในและต่างประเทศ, ค้าปลีก CPALL,CPAXT ปัจจัยบวกจากมาตรการดิจิทัล วอลเล็ต หุ้น GULF,GPSC,BGRIM,TIDLOR ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +1.76%, S&P500 +2.30%, Nasdaq +2.87% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 17,000 อยู่ที่ 233,000 ต่ำกว่าคาดที่ 241,000 ราย ช่วยลดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังอัตราว่างงานสหรัฐ ก.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.3% สูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

ขณะที่ความเห็นของ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ โทมัส บาร์กิ้น (Voting Member) เผยเงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มลดลงและหนุนให้เฟดลดดอกเบี้ย โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 56.5% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 17 – 18 ก.ย. นี้

สัปดาห์หน้าวันพุธติดตาม US CPI ก.ค.ก่อนการประชุมประจำปีเฟดที่แจ๊คสัน โฮล วันที่ 22 – 24 ส.ค. ซึ่งคาด ปธ.เฟดจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย.

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ OSP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 27.00 บาท) แนวโน้มกำไรในช่วง 2Q67 น่าจะยังดีต่อเนื่อง YoY จากอัตรากำไรทีดีขึ้น ส่วน QoQ อาจจะไม่ได้ชะลอลงอย่างที่คาดแม้ผ่าน peak season ของเมียนมาในช่วง 1Q67 แต่จะได้รับการชดเชยจากยอดขายในประเทศที่เติบโตได้ดีเพราะอากาศร้อน ขณะที่ต้นทุนการผลิตยังคงปรับลดลงต่อจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์กำไรปี 67-68 อยู่ที่ 2.78 พันล้านบาท +15%YoY และ 3.04 พันล้านบาท +10%YoY

หุ้น BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 35.00 บาท) ประเมินกำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 3,464 ลบ. (+13.09%YoY, -14.96% QoQ ) ลดลง QoQ ตามฤดูกาล(ฤดูร้อน-ผู้ป่วยไทย) ส่วน YoY ยังโตได้ดีทั้งจากผู้ป่วยต่างชาติ และ Capacity ที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ ภาพรวมทั้งปี 67 มีปัจจัยขับเคลื่อน จาก 1.จำนวนเตียงที่สูงขึ้นราว 200 เตียง(ร.พ.พญาไทยศรีราชา/ ร.พ.เด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล) 2.การปรับเพิ่มโควตาประกันสังคมขึ้นเป็น 1.5 ล้านราย จากเดิม 1 ล้านราย 3.กลุ่มผู้ป่วยต่างชาติในตลาดใหม่อย่างซาอุฯ/ มาตรการฟรีวีซาจีน โดย ปัจจุบัน เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 67 ที่ 15,824 ล้านบาท( +10.08%YoY)