HoonSmart.com>> Finnomena Funds ชี้ความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอย ฉุดหุ้นทั่วโลกดิ่งแรง 3 กูรูมองโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอยมีน้อย GDP สหรัฐฯ ยังเติบโต มองหุ้นปรับฐานรอบนี้ เป็นโอกาสทยอยสะสม ลุ้นดัชนีรีบาวด์มีสูง เน้นใช้ปัจจัยทางเทคนิคจับจังหวะตลาด พิจารณาปัจจัยรอบด้าน เพื่อโอกาสทำผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว พร้อมแนะนำ 6 กองทุนเด่น
Finnomena Funds อัปเดตมุมมองการลงทุน ณ วันที่ 5 ส.ค.2567 หลังตลาดหุ้นร่วงแรงทั้งโลกว่า ความกังวลในการเกิด Recession หลังตัวเลขอัตราการว่างงานในสหรัฐอเมริกา ขึ้นไปแตะระดับ 4.3% จน Trigger Sahm Rule ที่ 0.5 Percentage Point ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอยที่แม่นยำ สิ่งนี้ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว ทั้งในฝั่งอเมริกา ยุโรป รวมถึงหุ้นเอเชีย จากความกังวลและเริ่มออกอาการ Panic Sell
นายเจษฎา สุขทิศ CEO Finnomena Funds (มุมมองการลงทุน FundTalk Call) มองการลงทุนในรูปแบบ The Contrarian Investor เน้นกลยุทธ์การลงทุนที่หาสินทรัพย์ที่ถูกทิ้ง จนราคาปรับตัวลงลึกมากจนเกินไป แต่ศักยภาพการเติบโตยังดี ประกอบกับมีลมหนุนที่ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการกลับตัวขึ้นได้ ทำให้มีโอกาสได้เข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ดี ราคาถูก ตอนที่คนไม่เหลียวแล จึงมอง “ตลาดปรับตัวลงแรง เป็นโอกาสสะสม”
“มองว่ามีโอกาสน้อยที่จะเกิด Recession เพราะ GDP สหรัฐฯ ยังคงเติบโต ดังนั้น การที่ตลาดปรับฐานรอบนี้ จึงเห็นเป็นโอกาสเข้าทยอยสะสม Buy on dip ในระดับราคาที่ถูกลงชัดเจน”นายเจษฎา กล่าว
สำหรับกองทุนแนะนำ ได้แก่
1.) MEGA10AI-A : กองทุนที่ลงทุนใน 10 หุ้น Big Tech AI เน้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งแนวโน้มกำไรยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่ Valuation กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง โดย P/E ของหุ้นกลุ่มนี้ถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของตัวเองในอดีต
2.) DAOL-KOREAEQ : กองทุนหุ้นเกาหลีใต้แบบ Active Fund ซึ่งยังคงมีโอกาสเติบโตได้ดีของหุ้นกลุ่ม Semiconductors ในขณะที่ปัจจุบันราคาของดัชนี KOSPI ปรับตัวลดลง จึงทำให้ P/E อยู่ที่ประมาณ 9.2 เท่า ถูกกว่าค่าเฉลี่ยของตัวเองในอดีต
3.) PRINCIPAL GCLEAN-A : กองทุนหุ้นพลังงานสะอาด ซึ่งจะได้รับประโยชน์เต็มที่หากมีการปรับลดดอกเบี้ย อีกทั้งยังมีโมเมนตัมที่ดีจากนโยบายสนับสนุนพลังงานสะอาดของพรรคเดโมแครต
ด้านนาย วศิน ปริธัญ CEO & Investment Strategist at DEFINIT และ Ex-Head of Investment at FINNOMENA (มุมมองการลงทุน MEVT Call) เปิดเผยว่า คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ The Long-Term Growth เพื่อสร้างโอกาสทำผลตอบแทนได้ดีในระยะกลาง-ยาว โดยพิจารณาปัจจัยรอบด้านตาม MEVT Framework ได้แก่ Macro ปัจจัยเชิงมหภาค, Earnings วิเคราะห์การเติบโตของกำไร, Valuation การวิเคราะห์มูลค่าของสินทรัพย์ที่ลงทุน และ Technical ปัจจัยอื่น ๆ เช่น Fund Flow, Sentiment, Seasonal Statistic และ Technical Analysis
“มองว่า Recession คือ Tricker ใหญ่ที่จะชี้นำตลาดรอบนี้ ซึ่งจริงอยู่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่อนแอลง แต่ยังไม่ถึงขั้นเกิดภาวะถดถอย และการที่ตลาดเกิดอาการ Panic Sell เพราะฉะนั้น โอกาสรีบาวด์มีสูง”นายวศิน กล่าว
สำหรับกองทุนแนะนำ ได้แก่
1.) AFMOAT-HA : กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่มีปราการทางธุรกิจแข็งแกร่ง เนื่องจากการคัดเลือกหุ้นสไตล์ Value ทำให้ผลตอบแทนโดดเด่นในตลาดผันผวน และสามารถทนทานในทุกสภาวะตลาด
2.) SCBKEQTG : กองทุนหุ้นเกาหลีใต้ ยังคงแนะนำทยอยสะสมเป็นจังหวะฟื้นตัวตามวัฏจักร Semiconductor และยังมีปัจจัยหนุนจากพัฒนาการที่ชัดเจนของโครงการ Value-up Program เพื่อส่งเสริมมูลค่าตลาดหุ้น
3.) KT-GOLDUH-A : กองทุนทองคำ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มการป้องกันความผันผวนของพอร์ตในสถานการร์ที่ตลาดหุ้นเผชิญความผันผวน
นาย ชยนนท์ รักกาญจนันท์ CEO Finnomena Funds ( Mr.Messenger Call ) เปิดเผยว่า คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ Trend Follower Investor มุ่งสร้างโอกาสทำกำไรในระยะสั้น-กลาง เน้นใช้ปัจจัยทางเทคนิคจับจังหวะตลาด ศึกษาพฤติกรรมของราคาสินทรัพย์ในอดีต โดยใช้หลักสถิติเพื่อนำมาคาดการณ์พฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในอนาคต และช่วยให้หาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม
“แนะนำชะลอการลงทุน พร้อมติดตามปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่ยังไมชัดชัดเจน ทั้งความเห็นของคณะกรรมการ Fed ท่าทีหลังการประชุม Jackson Hole และการประกาศงบ Nvidia ในช่วงปลายเดือนส.ค.นี้”นายชยนนท์ กล่าว