MST ไตรมาส 2 กำไร 47 ลบ. วูบ 29% รายได้ค่านายหน้าลดลง

HoonSmart.com>> บล.เมย์แบงก์ กำไรไตรมาส 2/67 จำนวน 47 ล้านบาท วูบกว่า 29.54% รายได้ค่านายหน้าอยู่ที่ 237 ล้านบาท ลดลง 11.83% เหตุรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 12.95% ตามวอลุ่มตลาด นักลงทุนบุคคลเทรดหุ้นลดลง ฉุดงวด 6 เดือนปี 67 กำไร 218 ล้านบาท ลดลง 5.46%

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)หรือ MST เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 46.82 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.08 บาท ลดลง 29.54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 66.46 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท

ส่วนงวด 6 เดือนปี 2567 กำไรสุทธิ 218.14 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.38 บาท ลดลง 5.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 230.75 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.40 บาท

บริษัทฯ ชี้แจงผลงานไตรมาส 2 ปี 2567 มีรายได้ค่านายหน้า 237.65 ล้านบาท ลดลง 31.87 ล้านบาท ล้านบาท หรือ 11.83% เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 28.33 ล้านบาท หรือ 12.59% เหลือ 196.66 ล้านบาท เป็นผลจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ลดลงจาก 49,964.13 ล้านบาท/วัน เหลือ 44,708.45 ล้านบาท/วัน หรือลดลง 10.52% และสัดส่วนนักลงทุนบุคคลซึ่งเป็นส่วนรายได้หลักของบริษัทลดลงจาก 32.79% เหลือ 32.70% เป็นผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนบุคคลลดลงจาก 16,380.71 ล้านบาท/วัน เหลือ 14,538.21 ล้านบาท/วัน หรือลดลง 11.25%

นอกจากนี้รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 3.54 ล้านบาท หรือ 7.95% เหลือ 40.99 ล้านบาท

ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 4.11 ล้านบาท จาก 36.85 ล้านบาท เป็น 40.96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.15% เนื่องมาจากค่าที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มขึ้น 19.08 ล้านบาท ในขณะที่ค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ลดลง 10.69 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมจากการขายและการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนลดลง 4 ล้านบาท

รายได้อื่นเพิ่มขึ้น 5.80 ล้านบาท หรือ 1.90% เป็น 310.63 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินฝากในสถาบันการเงินและพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น 22.22 ล้านบาท และรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 7.88 ล้านบาท ในขณะที่รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลดลง 7.91 ล้านบาท กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินลดลง 16.28 ล้านบาท

ด้านค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 3.34 ล้านบาท หรือ 0.63% เป็น 530.61 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานเพิ่มขึ้น 8.80 ล้านบาท ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น 2.92 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มขึ้น 2.59 ล้านบาท ในขณะที่ค่าธรรมเนียมและบริการจ่ายลดลง 9.25 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 1.72 ล้านบาท