บล.กสิกรไทยคาดแนวโน้มหุ้นสัปดาห์หน้า ให้แนวรับแรก 1,600 จุด แนวต้าน 1,640 จุด แนะติดตามตัวเลขกำไรบจ. ส่วนสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างชาติยังคงขายหนัก ได้เงิน LTF และกำไรกลุ่มพลังงานออกมาดีช่วยงัดขึ้นมา
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา(22,24-26 ต.ค.2561) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรัยตัวลงแรงหลุด 1,600 จุด และเงินบาทอ่อนค่าหลุดแนว 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (29 ต.ค.-2 พ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,615 และ 1,600 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,640 และ 1,655 จุด ตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/2561 ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ เช่น รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ย.ดัชนี PMI ภาคการผลิต ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของ BOJ และ BOE ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2561 (เบื้องต้น) ของยูโรโซน ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค. ของประเทศแถบยุโรปและเอเชีย รวมถึงข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนก.ย.ของญี่ปุ่น
ภาวะการซื้อขายหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยหลุดระดับ 1,600 จุดก่อนฟื้นตัวขึ้น โดยปิดที่ระดับ 1,628.96 จุด ลดลง 2.34% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 11.57% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 55,770.91 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลง 3.07% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 413.69 จุด เผชิญแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติตลอดสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวลงจากผลของสงครามการค้า ทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง รวมถึงตัวเลขการส่งออกของไทยที่หดตัวมากกว่าที่ตลาดคาด
อย่างไรก็ดี ดัชนีสามารถฟื้นตัวขึ้นและลดช่วงลบลงในช่วงปลายสัปดาห์ หลังมีแรงหนุนจากเม็ดเงินลงทุนของกองทุน LTF/RMF และจากผลประกอบการไตรมาส 3/2561 ของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ออกมาดี
ส่วนค่าเงินบาทในวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ต.ค.)อยู่ที่ระดับ 33.09 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากระดับ 32.59 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (19 ต.ค.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (29 ต.ค.-2 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 32.80-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ จุดที่น่าสนใจอยู่ที่รายงานภาวะเศรษฐกิจการเงินเดือนก.ย. และเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของไทย