JMT-JMART ดิ่งนำหุ้นตระกูล J ข่าวสะพัดจะโดนตรวจสอบการซื้อขาย

HoonSmart.com>>หุ้นตระกูล J ดิ่งไม่หยุด นำโดย JMT-JMART ข่าวสะพัดจะโดนตรวจสอบการซื้อขายเข้มหลังมีปัญหาจาก STARK, OTO และหุ้นอื่น ๆ รวมถึงกังวลมาตรการแบงก์ชาติในการเข้ามาควบคุมธุรกิจเช่าซื้อ อีกทั้งทิศทางดอกเบี้ยยังเป็นขาขึ้น

หุ้นตระกูล J ปิดเช้าปรับตัวลงทั่วหน้า นำโดยหุ้น JMT ลบ 3.23% มาที่ 37.50 บาท ลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 456.41 ล้านบาท
หุ้น JMART ลบ 2.41% มาที่ 16.20 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 431.22 ล้านบาท
หุ้น SINGER ลบ 1.50% มาที่ 9.85 บาท ลดลง 0.15 บาท มูลค่าซื้อขาย 55.71 ล้านบาท
หุ้น SGC ลบ 0.62% มาที่ 1.61 บาท ลดลง 0.01 บาท มูลค่าซื้อขาย 9.93 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากห้องค้าหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า หุ้นในตระกูล J ยังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเป็นผลจากมีกระแสข่าวออกมาสะพัดในห้องค้าหลักทรัพย์ว่า มีโอกาสที่หุ้นในกลุ่มนี้จะโดนตรวจสอบการซื้อขายอย่างเข้มงวด หลังจากที่มีปัญหาเรื่องของ STARK และ OTO รวมถึงหุ้นตัวอื่น ๆ ด้วย ทำให้มีการตรวจสอบการซื้อขายเข้มขึ้น ดังนั้นบริษัทที่ต้องสงสัย หรืองบฯ หรืออะไรที่น่าสงสัยก็๗ะถูกตรวจสอบ ซึ่งก็มีการมองถึง SINGER ที่มีแผลลึก อาจโดนตรวจสอบการซื้อขายได้

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ราคาหุ้นตระกูล J เซไม่หยุด จากความกังวลมาตรการของแบงก์ชาติในการเข้ามาควบคุมธุรกิจช่าซื้อ อีกทั้งยังสะท้อนความกังวลหลายยอย่าง ทั้งเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยยังเดินหน้าขึ้นไปอยู่

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า การที่ธนาคารต่าง ๆ จะนํา NPLs จํานวนมากออกมาขายเป็นโอกาสของ AMC ที่จะกว้านซื้อหนี้เสียในราคาต่ํา และรักษาการเติบโตของยอดเก็บเงินสด และ margin ในระยะยาว ทั้งนี้ JMT ทําการซื้อหนี้เสีย 6 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2/66 ทําให้ยอดซื้อหนี้เสียรวมในครึ่งแรกปี 66 อยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ การซื้อหนี้เสียเพิ่ม โดย JKAMC จะทําให้ยอดเก็บเงินสดในปี 66-67 แข็งแกร่งที่ 1.05 หมื่นล้านบาท, 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 6.9 พันล้านบาทในปี 65

ทั้งนี้ คาดว่ากําไรสุทธิของ JMT ในไตรมาส 2/66 จะอยู่ที่ 531 ล้านบาท(+17% QoQ, +23% YoY)อิงจากยอดตามเก็บเงินสดที่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้น 15% QoQ และ66% YoY (โดยใช้สมมติฐานว่ายอดเก็บเงินสดของ JKAMC จะช่วยหนุนการเติบโต)และรายได้ equity income จาก JKAMC ที่ 145 ล้านบาท(เพิ่มขึ้นจาก 133 ล้านบาทในไตรมาส 1/66)

ทั้งนี้ หลังจากที่ราคาหุ้น JMT ปรับลงมาแรงในขณะที่กําไรมีแนวโน้มเติบโตชัดเจน จึงมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 60 บาท(PE 38.5x)