HoonSmart.com>>หุ้นผิดปกติ 2 น้องใหม่กอดคอกันดิ่งฟลอร์ “บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค (BLC)” ประเดิมวันแรกปิดต่ำสุด 7.20 บาท “ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น (TBN)”รายย่อยเข้าเก็งกำไรก่อนถูกต้อนจนมุม ด้าน 2 กรรมการ TBN ชิงลาออก ส่วน OTO ลงเหวฟลอร์ที่ 6 STARK เซอร์ไพรส์ ราคาปิดยืน 0.03 บาท หลังจากดิ่งต่ำสุด 0.01 บาท สวนทางข่าวลบ บริษัทย่อย “อดิสรสงขลา”ผิดนัดหุ้นกู้ 3รุ่นรวม 127 ล้านบาท รายย่อยที่เดือดร้อนจากหุ้น-หุ้นกู้ STARK รวมตัวกันต่อสู้เรียกร้องค่าเสียหาย
บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค (BLC) เดินหน้าเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรก (21 มิ.ย.2566) เปิดตัวที่ราคา IPO 10.50 บาท สุดท้ายปิดต่ำสุดของวันระดับ 7.20 บาท ร่วงลง 3.30 บาทหรือ -31.43% เทียบกับราคา IPO ทำให้มาร์เก็ตแคปหายไปมากถึง 1,980 ล้านบาท
หุ้น BLC ร่วงลงแรงฟลอร์ในวันแรก ถูกสังเวยจากภาวะตลาดโดยรวมไม่เอื้ออำนวย ท่ามกลางหุ้น IPO หลายตัวทำนักลงทุนผิดหวัง จึงต้องช่วงชิงขายออกมาก่อน รวมถึงหุ้นน้องใหม่ บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น (TBN) ที่เพิ่งเข้าซื้อขายเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถูกใช้เป็นเครื่องมือทำราคาร้อนแรง ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้นผิดปกติ จนตลาดหลักทรัพย์ต้องออกโรงเตือนให้เพิ่มความระมัดระวัง กดดันราคาหุ้นร่วงแรง ล่าสุดเจอเกมส์ไล่ราคาแล้วทุบราคาฟลอร์กระจาย ทำนักลงทุนเสียหายมหาศาล ปิดที่ 20.80 บาท ร่วง 8.70 บาทหรือ -29.49% มูลค่าซื้อขายหนาตา 1,918.89 ล้านบาท ราคาหุ้น TBN ที่ร่วงลงฟลอร์ ทำให้มาร์เก็ตแคปวันเดียวทรุดลง 870 ล้านบาท
ด้านบริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น (TBN) แจ้งว่า นายสยาม สีวราภรณ์สกุล และนายวิสุทธิ์ อุดมปิติทรัพย์ ได้มีหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง กรรมการบริษัท และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท โดยมีผลตั้งแต่ วันที่ 19 มิ.ย.2566 เป็นต้นไป
ส่วนหุ้นบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) ราคายังคงลงเละต่อ ดิ่งฟลอร์ที่ 6 ราคาปิดที่ 2.02 บาท ร่วง 0.88 บาทหรือ -30.34% ด้วยมูลค่าซื้อขายรวม 367.4 ล้านบาท ทำให้มาร์เก็ตแคปทรุดลง 698.05 ล้านบาท
สำหรับบริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) สุดยอด ระหว่างวันลงไปต่ำสุด 0.01 บาท ก่อนดีดขึ้นปิดที่ 0.03 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ผิดจากที่นักลงทุนคาดการณ์ เนื่องจากมีข่าวลบเข้ามาไม่หยุด ล่าสุด บริษัทย่อย คือ อดิสรสงขลา (ADS) ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 3 รุ่น เนื่องจากไม่ชำระคืนเงินต้นให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ ณ วันครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 1 มิ.ย.2566 และอยู่ระหว่างการเจรจาหาทางออกร่วมกับเจ้าหนี้เพื่อมิให้เจ้าหนี้เรียกร้องให้ชำระหนี้เงินต้นคงค้างทั้งหมดจำนวน 127ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมด (ถ้ามี) ถึงชำระโดยพลัน
สำหรับหุ้นกู้ 3 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้ครั้งที่ 3/2564 รุ่นที่ 1 เงินต้นมูลค่า 40 ล้านบาท , หุ้นกู้ครั้งที่ 2/2564 รุ่นที่ 5 เงินต้นมูลค่า 57 ล้านบาท และ หุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2564 รุ่นที่ 6 คมูลค่า 30 ล้านบาท
นักลงทุนรายย่อยที่เสียหายจากการถือหุ้น STARK ร่วมลงชื่อเพื่อรวมตัวฟ้องคดีกลุ่ม แล้ว 660 ราย คาดความเสียหายรวมกันมากกว่า 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีข่าวจากห้องผู้ถือหุ้นกู้ STARK ทุกรุ่น นัดรวมตัววันที่ 22 มิ.ย. เวลา 14.00 น. จะเดินทางไปพบพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ที่ที่ทำการพรรคเสรีรวมไทย บางขุนนนท์ เพื่อยื่นจดหมายร้องเรียนขอความอนุเคราะห์ให้จัดการปัญหาให้ผู้ถือหุ้นกู้ที่เดือดร้อนอยู่ในขณะนี้