หุ้นเช้านี้ลบ 6.10 จุด แกว่งไซด์เวย์ ขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 6.10 จุด แกว่งไซด์เวย์ ขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นหลังตอบรับผลประชุมเฟด-ECB ไปแล้ว โดย Fund Flow ต่างชาติผันผวนกดดันดัชนี

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 19 มิ.ย.2566 ณ เวลา 9.57 น.อยู่ที่ระดับ 1,553.29 จุด ลดลง 6.10 จุด หรือ -0.39% มูลค่าซื้อขาย 1,599.07 ล้านบาท

บล.กรุงศรี มอง SET แกว่งตัว 1,550 – 1,570 จุด ภาวะตลาดกลับมาให้น้ำหนักธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหลังเจ้าหน้าที่เฟดให้ความเห็นว่าเงินเฟ้อพื้นฐานยังไม่ลดลงตามที่คาดไว้ (เป้าหมายที่ 2%) ประกอบกับ Fund flow ต่างชาติที่ผันผวนตัวกดดันดัชนี อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นจากคาดการณ์ Demand เพิ่มขึ้นหลังจีนกระตุ้นเศรษฐกิจและแรงซื้อหุ้นที่มีข่าวเฉพสะตัวจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้น

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,550-1,570 จุด โดยขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้นหลังจากตอบรับผลการประชุมเฟด และ ECB ไปแล้วสัปดาห์ก่อน กลุ่มพลังงานคาดว่ายังประคองตลาดอย่างต่อเนื่องตามราคาพลังงานที่ขยับขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งน้ำมันและก๊าซ

ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศคาดว่าจะเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นโดยตลาดประเมินกกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ครบ 95% ได้สัปดาห์นี้ ขณะที่ตำแหน่งประธานสภาฯมีความชัดเจนมากขึ้นว่าจะเป็นของพรรคก้าวไกล ทำให้มองเป็น Sentiment บวกอ่อนๆเป็นลำดับตามพัฒนาการที่ทยอยชัดเจนที่ละขั้น โดยโฟกันหลักยังคงอยู่ที่การโหวตเลือกนายกฯและการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะแล้วเสร็จจะเดือน ก.ค.-ส.ค. หรือไม่ ทำให้โฟกัสในครึ่งหลังปี 66 จะอยู่ที่นโยบายเศรษฐกิจทั้งมาตรการกระตุ้นระยะสั้นและการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะกลาง-ยาว

อย่างไรก็ตาม ยังคงประเมินการปรับขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงยังจำกัดจากดอกเบี้ยและ Bond Yield ทั่วโลกที่สูงกว่าปกติ ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งหลังปี 66 จะเริ่มเห็ฯการชะลอที่ชัดขึ้น กลุ่ม Global Play จึงมองเพียงเก็งกำไรและเลือกเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และยังชอบกลุ่ม Domestic Play ที่ได้อานิสงส์จากการบริโภคที่ฟื้นและมีความเสี่ยงจากนโยบายรัฐบาลใหม่จำกัด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BBL อยู่ที่ 159.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -0.93% มูลค่าซื้อขาย 160.67 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 151.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -0.98% มูลค่าซื้อขาย 153.52 ล้านบาท
SCC อยู่ที่ 326.00 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ -1.51% มูลค่าซื้อขาย 136.25 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 71.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.35% มูลค่าซื้อขาย 131.30 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 130.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 84.48 ล้านบาท