ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 1.63% ได้แรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน หุ้นเทคโนโลยีพลิกบวก ธนาคารยุโรปยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 25 ต.ค. 2561 ที่ 24,984.55 จุด เพิ่มขึ้น 401.13 จุด หรือ 1.63% จากแรงหนุนของผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเทสลา ไมโครซอฟต์และอเมริกันแอร์ไลน์ ซึ่งแสดงให้นักลงทุนเห็นว่าเศรษฐกิจยังเติบโตแข็งแกร่ง และการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดอัตราภาษีก่อนหน้านี้มีส่วนหนุนผลประกอบการ
นักวิเคราะห์ประมาณการผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P 500 ในไตรมาส 1/25612019 ว่าจะเติบโต 8.44%
หุ้นเน็ตฟลิกซ์เพิ่มขึ้น 3.66% หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 2.19% หุ้นอเมซอนเพิ่มขึ้น 7.09% หุ้นเฟซบุ๊คเพิ่มขึ้น 3.36% หุ้นอัลฟาเบทเพิ่มขึ้น 4.40% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 4.23%
หุ้นไมโครซอฟต์ 5.84% หุ้นเทสลาเพิ่มขึ้น 9.14% หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 6.69%
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,705.57 จุด เพิ่มขึ้น 49.47 จุด,+1.86%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,318.34 จุด เพิ่มขึ้น 209.94 จุด,+2.95%
ทางด้านตลาดยุโรปปิดบวกหลังการประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) ยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นและการปรับลดมาตรการ QE ตามแผนเดิมที่ประกาศไว้
ขณะที่มาริโอ้ ดรากี ประธานธนาคารกลางให้ความเห็นว่าความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจยุโรปมีความสมดุล และระบุว่าการปกป้องทางการค้า ความผันผวนในตลาดประเทศเศรษฐกิจใหม่ ความแปรปรวนในตลาดการเงินเป็นความเสี่ยงที่เห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ความขัดแย้งของการจัดทำงบประมาณระหว่างอิตาลีกับสหภาพยุโรปอาจจะมีผลกระทบบ้าง แต่ก็ไม่กังวลมาก
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,004.10 จุด เพิ่มขึ้น 41.12 จุด,+0.59%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 355.07 จุด เพิ่มขึ้น 1.80 จุด,+0.51%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,032.30 จุด เพิ่มขึ้น 79.21 จุด,+1.60%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,307.12 จุด เพิ่มขึ้น 115.49 จุด,+1.03%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ ปิดที่ 67.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ ปิดที่ 76.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล