ดาวโจนส์ปิดบวก 243 จุด แรงขายหุ้นเทคฉุด S&P500-Nasdaq

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 243 จุด สวน S&P 500, Nasdaq ร่วง แรงขายหุ้นเทคโนโลยีสลับกลุ่มไปลงทุนหุ้นที่อ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น หลังสหรัฐจะใช้มาตรการเพิ่มข้อจำกัดทางการค้าเซมิคอนดักเตอร์กับจีน ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.85 ดอลลาร์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบเป็นวันที่สาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ปิดที่ 41,198.08 จุด เพิ่มขึ้น 243.60 จุด หรือ +0.59% เป็นการปิดเหนือระดับ 41,000 จุดครั้งแรก นักลงทุนสลับกลุ่มออกจากกลุ่มเทคโนโลยีต่อเนื่องและหันไปลงทุนในหุ้นที่อ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,588.27 จุด ลดลง 78.93 จุด, -1.39%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,996.92 จุด ลดลง 512.42 จุด, -2.77% เป็นการที่ปรับลงภายในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 และปิดต่ำกว่าระดับ 18,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม

การสลับกลุ่มเล่นเกิดขึ้น จากการที่เทรดเดอร์มีมุมมองทางบวกมากขึ้นว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทขนาดเล็กและบริษัทที่มีต้นทุนทางการเงินสูงกว่า จากเครื่องมือ CME FedWatch บ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

ไมค์ ดิกสัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์เชิงปริมาณของ Horizon Investments กล่าวว่า

นักลงทุนขายหุ้นใหญ่ออกบางส่วน ทำกำไรบ้าง และซื้อหุ้นวัฏจักรมากขึ้น( Cyclical Stocks หุ้นที่มีผลการดำเนินงานได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยรวม ) และคาดว่ายังเป็นแบบนี้ต่อเนื่องจนกว่าจะถึงช่วงการรายงานผลการดำเนินงาน

หุ้น Nvidia บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ร่วงลง 6.6% และหุ้นของผู้ผลิตชิปคู่แข่งอย่าง Advanced Micro Devices ก็ร่วงลง 10.2% หุ้น ASML Holding และหุ้น Taiwan Semiconductor Manufacturing ลดลง 12% และ 7% ตามลำดับ หุ้น Arm Holdings หุ้น Lam Research หุ้น Qualcomm ต่างลดลง 8% ส่วนหุ้น Applied Materials ลดลงกว่า 8% และส่งผลให้ดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดหุ้นฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia SE Semiconductor Index) ลดลง 6.8% ซึ่งเป็นการลดลงในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคท 2020

แรงขายออกเกิดขึ้นหลังจากรายงานเมื่อวันอังคารจาก Bloomberg ว่าฝ่ายบริหารของ Biden กำลังพิจารณาแผนการที่จะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีน และเพิ่มข้อจำกัดทางการค้าเซมิคอนดักเตอร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าไต้หวันควรจ่ายเงินให้สหรัฐฯ เพื่อการป้องกันประเทศและไต้หวันมีส่วนถึง 100% ในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐ
แต่หุ้น Intel และหุ้น Texas Instruments กลับปรับตัวขึ้น 3% และ 0.4% ตามลำดับ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง หลังการรายงาน ข้อมูลที่อยู่อาศัยคลายความร้อนแรง ท่ามกลางสัญญาณของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลง มาที่ 4.143% ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีลดลง มาที่ 4.425% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

เฟดเผยแพร่รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book โดย 5 เขคจาก 12 เขต ที่แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจชะลอตัวจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจทรงตัวหรือลดลงและผู้บริโภคปรับตัวตามอัตราเงินเฟ้อ และคาดการณ์ว่า การเติบโตชะลอลงในช่วงหกเดือนข้างหน้า เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง นโยบายภายในประเทศ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และอัตราเงินเฟ้อ
การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน จากที่เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพฤษภาคมและดีกว่าคาด ส่วนเมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้น 1.6% ในไตรมาสสองการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 4.3% เป็นระดับสูงงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายปี 2021.

นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ ระบุในการกล่าวสุนทรพจน์ที่งานของเฟดที่เมืองแคนซัสซิตี้เมื่อวันพุธว่าเศรษฐกิจใกล้ถึงจุดที่เหมาะสมจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

“แม้ว่าผมจะไม่เชื่อว่าเราได้มาถึงจุดหมายสุดท้ายแล้ว แต่ผมเชื่อว่าเรากำลังเข้าใกล้เวลาที่ต้องมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว”

นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพื่อประเมินตลาดแรงงาน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาที่ 229,000 รายจาก 222,000 ราย

ตลาดยุโรปปิดลบเป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยหุ้นชิปร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลต่อความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ให้ความสนใจกับการการประชุมตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้

ดัชนี STOXX 600 แตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ โดยกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 4.5% ซึ่งเป็นการลดลงในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022

หุ้น ASML จากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์อุปกรณ์ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงลงเกือบ 11% ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ลดลงในวันเดียวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าสี่ปี จากความกังวลว่าแรงกดดันของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจนำไปสู่ข้อจำกัดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในการส่งออกไปยังจีน ซึ่งกลบการรายงานตัวเลขกำไรไตรมาสสอง

หุ้นเซมิคอนดักเตอร์อื่น ๆ ลดลงด้วย โดยหุ้น ASM International และหุ้น BE Semiconductor ต่างร่วงลงกว่า 7%

ยูโรโซนเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนก่อนการประชุมของ ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ ว่าอยู่ที่2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งตลาดคาดว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 514.83 จุด ลดลง 2.47 จุด, -0.48%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,187.46 จุด เพิ่มขึ้น 22.56 จุด, +0.28%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,570.81 จุด ลดลง 9.22 จุด, -0.12%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,437.30 จุด ลดลง 80.73 จุด, -0.44%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 2.09 ดอลลาร์ หรือ 2.59% ปิดที่ 82.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 1.61% ปิดที่ 85.08ดอลลาร์ต่อบาร์เรล