HoonSmart.com>>”พลังงานบริสุทธิ์” (EA) ดิ่งฟลอร์ มาร์เก็ตแคปหายวับในวันเดียว 14,733.5 ล้านบาท แจ้งมีหนี้เงินต้นต้องชำระปีนี้ 19,505 ล้านบาท คาด Roll Over หนี้ระยะสั้นตามปกติ 8,354 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้ยาวและหุ้นกู้ยาว เตรียมเงินพร้อม ทริสลดเครดิตเหลือ BB+ จังก์บอนด์ ล้มขายหุ้นกู้ เลือก Strategic Partners ร่วมลงทุน สร้างการเงินแข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพชำระหนี้ พัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว ย้ำ 2 บิ๊กลาออกไม่กระทบธุรกิจ ทีมผู้บริหารชุดเดืม
บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดซื้อขายหุ้นตามปกติ วันที่ 16 ก.ค.2567 เปิดและปิดที่ราคาฟลอร์ 9.15 บาท ร่วงลงแรง 3.95 บาท ทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) หายไปภายในวันเดียวมากถึง 14,733.5 ล้านบาท และมีแนวโน้มจะลงแรงต่อเนื่อง จากการมีออเดอร์ขายค้างอยู่จำนวน 219.52 ล้านหุ้น
ตลาดเปิดให้ซื้อขายหุ้น หลังจากชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบฐานะทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากภาระหนี้สิน โดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 2567 และแนวทางที่ชัดเจนในการชำระหนี้ รวมทั้งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัทฯ เนื่องจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารลาออก จากกรณีถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ
ณ สิ้นเดือนมี.ค.2567 บริษัทมีหนี้สินเงินต้นที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 2567 จำนวน 19,505 ล้านบาท บริษัทได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปก่อนหน้านั้น การชำระหนี้ระยะยาวรวมทั้งหุ้นกู้ โดยพิจารณาจากการประมาณการเงินกู้ระยะยาวรวมดอกเบี้ยที่ต้องชำระคืนประมาณ 3,200 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระอีก 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะต้องดำเนินการชำระจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567
ส่วนที่เหลือเป็นวงเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินหลายแห่ง มีอยู่ 8,354 ล้านบาท เบื้องต้นบริษัทไม่ได้ชี้แจง เพราะโดยปกติบริษัทจะ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นในส่วนนี้อยู่แล้ว
สำหรับหุ้นกู้ของบริษัทมี 16 ชุด รวมมูลค่า 31,166 ล้านบาท ซึ่งเป็นหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน และมีเงื่อนไขการผิดนัดไขว้( Cross Default ) กับสถาบันการเงิน หรือหุ้นกู้อื่น ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังไม่มีการก่อภาระหนี้สินระยะยาวเพิ่มเติม
บริษัทมีความตั้งใจที่จะ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นตามที่เคยปฏิบัติมา และมีแผนที่จะชำระเงินกู้และหุ้นกู้ระยะยาวที่จะครบกำหนดในปี 2567 ด้วยเงินทุนมาจาก 3 แหล่ง ได้แก่
1.กระแสเงินสดจากการดำเนินงานโดยไตรมาสที่ 1/2567 บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการจำนวน 1,900 ล้านบาท และบริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมทุกเดือนประมาณ 1,000 ล้านบาท
2.วงเงินกู้จากสถาบันการเงินวงเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาขั้นสุดท้ายของสถาบันการเงิน
3.หุ้นกู้ที่จะออกเพิ่มเติมในปี 2567 จำนวนและวันเสนอขาย อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้รับประกันการจัดจำหน่าย โดยบริษัทคาดว่าจะเป็นหุ้นกู้อายุ 1 ปีและ 3 ปี ทั้งนี้มีข่าวว่าบริษัทยกเลิกการขายหุ้นกู้แล้ว หลังจากทริสเรทติ้งส์ ได้ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือจาก BBB+ (ลบ) เป็น BB+(ลบ) เป็นจังก์บอนด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน และหุ้นกู้ใหม่ที่จะออกตามแผนเดิม อย่างไรก็ดีบริษัทขอเน้นย้ำว่า บริษัทยังมีรายได้จากโรงไฟฟ้าประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นกระแสเงินสดหลัก
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาและพิจารณาคัดเลือก Strategic Partners เข้ามาร่วมลงทุน สร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มศักยภาพในการชำระหนี้และพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัทฯ กรณีนายสมโภชน์ อาหุนัย (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล (CFO) ซึ่งดูแลรับผิดชอบตำแหน่งบริหารสำคัญลาออกจากตำแหน่ง นั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากคณะผู้บริหารและทีมงานที่บริหารจัดการยังคงเป็นชุดเดิม
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้แต่งตั้งนายสมใจนึก เองตระกูล เข้าดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และเป็นที่น่าเชื่อถือ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ รวมถึงกำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์เพื่อนำบริษัทก้าวผ่านวิกฤตได้
สำหรับนายวสุ กลมเกลี้ยง ในฐานะรักษาการ CFO เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการเงินการลงทุน และเป็นอดีตผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ มีประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างดี อีกทั้งมีศักยภาพ ทักษะความรู้ความสามารถในการบริหารงานที่เกี่ยวข้อง และอยู่ในสายงานนี้มามากกว่า 10 ปี ทั้งนี้หากบริษัทฯ มีความคืบหน้าเรื่องการแต่งตั้งตำแหน่ง จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์รับทราบต่อไป