“คิงส์ฟอร์ด” คาดหุ้นขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,565 – 1,570 แนะ AH-SICT

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองตลาดหุ้นวันนี้ดูดีหลังวานนี้ดัชนีผ่านแนวต้าน 1,545 ปัจจัยหนุนจากตลาดคาดเฟดคงดอกเบี้ย ด้านเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว หนุนดัชนีทดสอบแนวต้าน 1,565 – 1,570 จุด ส่วนแนวรับ 1,545 – 1,550 จุด แนะซื้อเก็งกำไร HANA, KCE, BE8, BBIK หลังบอนด์ยีลด์ลดลง หุ้น BEC, RS, ONEE คาดรายได้โฆษณาปรับดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ พร้อมเสิร์ฟหุ้นวันนี้แนะ AH, SICT

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองดัชนี SET วานนี้สามารถผ่านแนวต้าน 1,545 ได้ ส่งผลให้บวกต่อโมเมนตัมของดัชนี จากปัจจัยหนุนคาดเฟดคงดอกเบี้ย กอปรเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวดี วางแนวรับดัชนีที่ 1,545 – 1,550 แนวต้าน 1,565 – 1,570 แนะนำซื้อเก็งกำไร HANA, KCE, BE8, BBIK ปัจจัยหนุนจาก US Bond Yield ลดลง หุ้น BEC, RS, ONEE คาดรายได้โฆษณาปรับดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.50%, S&P500 +0.62%, Nasdaq +1.02% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 28,000 ราย อยู่ที่ 261,000 ราย สูงกว่าคาดที่ 235,000 ราย ส่งผลให้การประชุมเฟด 13 – 14 มิ.ย. มีโอกาสคงดอกเบี้ย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.02% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี, สินค้าอุปโภค หลัง GDP ยูโรโซน Q1/66 เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ AH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 50.00 บาท) ราคาหุ้นที่ร่วงลงมาเรามองว่าเป็นโอกาสซื้อ หลัง Isuzu Motors Thailand ออกมาปฏิเสธข่าวย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศอินโดนีเซียเร็วสุดในปีหน้าตามที่สื่อต่างประเทศรายงาน ทั้งนี้ Isuzu จะยังคงใช้ไทยเป็นฐานในการผลิตเช่นเดิมดูจากสัดส่วนยอดขายรถกระบะในประเทศไทยที่เป็นอันดับต้นๆ รวมถึงเป็นฐานในการผลิตเพื่อส่งออกด้วย สำหรับ AH นั้นหากพิจารณาจากฐานรายได้ในปี 66 ที่ราว 3.1 หมื่นล้านบาท มีรายได้จากธุรกิจผลิตชิ้นส่วน 73% มีลูกค้า Isuzu 36%

ในกรณี Worst Case (ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง) จะกระทบกับรายได้และกำไรสุทธิราว -26% และ -22% ถ้าคิดอิง PER 8-10 เท่า ราคาเหมาะสมจะอยู่ในช่วง 34.75-41.00 บาท ซึ่งช่วง Panic ได้ลงมาทดสอบไปแล้ว ส่วนประมาณการปี 66 ของเรายังเช่นเดิมประเมินยอดขายที่ 3.1 หมื่นล้านบาท เติบโต +11%YoY ดีกว่าอุตสาหกรรม กำไรปกติปี 66 อยู่ที่ 1.94 พันล้านบาท +14%YoY กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.87 พันล้านบาท +2%YoY Valuation ไม่แพง ระยะยาวคาดว่าได้รับประโยชน์ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย

หุ้น SICT (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.30 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q66 อยู่ที่ 59.5 ลบ. (+96%YoY, +9%QoQ ) จากปัจจัยบวกเชิงรายได้โดยเฉพาะกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ (Animal ID) จากการบังคับใช้ป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มแกะ/แพะในออสเตรเลีย ด้านการดำเนินงานช่วงถัดไป คาดว่าจะมีแรงหนุนจาก การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Industrial IoT คือ Wafer Cassette Tracking Chip รวมถึงแนวโน้มการบังคับใช้ป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศอื่นๆเพิ่มเติม โดยผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10-15% ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี66 และ ปี67 ของ SICT* อยู่ที่ 167 ลบ. (+23%YoY) และ 210 ลบ.(+26%YoY) ตามลำดับ