HoonSmart.com>> ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศรายชื่อหุ้นเข้าดัชนี FTSE SET Index Series รอบทบทวน จำนวน 29 หลักทรัพย์ มีผล 19 มิ.ย.66 กลุ่ม Large Cap มี 2 หุ้นเข้าใหม่ “MAKRO-TRUE” เบียด “BEM-DIF” ตกไปเข้ากลุ่ม ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index พร้อมอีก 6 หลักทรัพย์ “BTG-ITC-SAPPE-SISB-SNNP-SCAP” ส่วนดัชนี FTSE SET Shariah Index มี 19 หลักทรัพย์เข้าใหม่
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 19 มิ.ย.2566 เป็นต้นไป สรุปได้ดังนี้
ดัชนี FTSE SET Large Cap Index มี 2 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ บริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ส่วนหลักทรัพย์ที่ออก (Deletion) ได้แก่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF)
ส่วนดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มี 8 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM), บริษัท เบทาโกร (BTG), กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) , บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) , บริษัท เซ็ปเป้ (SAPPE) , บริษัท เอสไอเอสบี (SISB) ,บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) และบริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 (SCAP)
หลักทรัพย์ที่ออก ได้แก่ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) ,บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ,บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ,บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) , บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) , บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) ,
ขณะที่ดัชนี FTSE SET Shariah Index มี 19 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) , บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (AAI), บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ (AURA) , บริษัท การบินกรุงเทพ (BA) , บริษัท บ้านปู (BANPU) , บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY), บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI) ,บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE), บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) ,บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI) ,บริษัท เอ็นเอฟซี (NFC) ,บริษัท โพลีเน็ต (POLY) ,กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ (POPF) บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป (PRTR) ,บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (SCM) ,บริษัท ทีมพรีซิชั่น (TEAM) ,บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ,บริษัท ทีทีซีแอล (TTCL) , บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC)
หลักทรัพย์ที่ออก ได้แก่ บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ (AJ) , บริษัท เอเซีย พรีซิชั่น (APCS) , บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ (BEYOND) , บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) , บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ (CV) , กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) , บริษัท เอกชัยการแพทย์ (EKH) ,บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) ,บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ,บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ,บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว (LPH) ,บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) (LST) ,บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF)
บริษัท ณุศาศิริ (NUSA) , บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC),บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) , บริษัท ราช กรุ๊ป (RATCH) ,บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) , บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP), บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX), บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ,บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง (TRITN) , บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) และบริษัทไวส์ โลจิสติกส์ (WICE)
ติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับดัชนีชุด FTSE SET Index Series และหลักเกณฑ์ในการคำนวณ ได้ที่เว็บไซต์ https://www.ftserussell.com/products/indices/set และ https://www.set.or.th/th/market/index/ftse-set/profile
การทบทวนหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนีชุด FTSE SET Index Series จัดทำขึ้นปีละ 2 ครั้ง ตามหลักเกณฑ์ที่มีการกำหนดไว้เป็นการล่วงหน้า โดยมีกำหนดทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ครั้งต่อไปในเดือนธันวาคม 2566
