HoonSmart.com>>” บล.คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,520 – 1,527 แนวต้าน 1,535 – 1,540 จุด คาดดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน หลังกลุ่มโอเปกขยายมาตรการและลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปี 67 ลดกำลังผลิตเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรล แนะนำซื้อเก็งกำไร PTT, PTTEP, TOP, BCP, SPRC และธนาคาร BBL,SCB,KTB,TTB จากแนวโน้ม NIM กว้างขึ้น พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่น TKN
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองตลาดหุ้นวันนี้ วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,520 – 1,527 แนวต้าน 1,535 – 1,540 จุด คาดดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน หลังกลุ่มโอเปกขยาย มาตรการลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปี 67 แนะนำซื้อเก็งกำไร PTT, PTTEP, TOP, BCP, SPRC และธนาคาร BBL,SCB,KTB,TTB จากแนวโน้ม NIM กว้างขึ้น
กลุ่มพลังงาน คาดได้รับ Sentiment บวกจากการประชุม OPEC+ ที่ซาอุฯ จะลดปริมาณการผลิตโดยสมัครใจลงเหลือ 9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ค.67 จาก 10 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ค.67 รวมแล้วทางกลุ่มได้ปรับลดปริมาณการผลิตลง 3.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน (แบ่งเป็น 2 ล้านบาร์เรลต่อวันแรกที่ตกลงกันในปีที่แล้ว และการปรับลดโดยสมัครใจ 1.66 ล้านบาร์เรลต่อวันที่ตกลงกันในเดือน เม.ย.66)
นอกจากนี้ยังได้ขยายเวลาในการจำกัดอุปทานไปจนถึงสิ้นปี 2567 ส่งผลให้ปริมาณการผลิตตั้งแต่เดือน ม.ค.67 ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เดิมในปี 2567 จะผลิต 40.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามปริมาณการผลิตที่ลดลงจริงจะน้อยกว่าที่ประกาศ เนื่องจากเป็นการปรับเป้าของรัสเซีย ไนจีเรีย และแองโกลาที่ผลิตต่ำกว่าโควตาอยู่แล้ว ในทางตรงข้ามยังให้ UAE ผลิตเพิ่มมากขึ้นอีก 2 แสนบาร์เรลต่อวันด้วย)
ทั้งนี้จากความพยายามของกลุ่มโอเปกดังกล่าวน่าจะช่วยให้ตลาดน้ำมันมีเสถียรภาพมากขึ้นในระยะสั้น (Brent กลับไปเหนือ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ณ สิ้นปี 66) แนะนำเก็งกำไรกลุ่ม Oil Play อย่าง PTT, PTTEP, TOP, BCP, SPRC
TKN (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.35 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q66 อยู่ที่ 166 ลบ. (+164%YoY, +37% QoQ มีแรงหนุนในเชิงรายได้YoY จากการ Reopening ทั้งในประเทศไทย(+24%YoY)และตลาดต่างประเทศ (+31%YoY)โดยเฉพาะในจีน ด้านการดำเนินงานช่วงถัดไป คาดว่าจะมีแรงหนุนจากการปรับปรุง Product mix และยกระดับการผลิตในรูปแบบ Automation เพื่อเพิ่ม Gross Profit Margin
ขณะที่แนวโน้มการรุกตลาดต่างประเทศยังดูดีจาก การขยายช่องทางจำหนายในสหรัฐฯผ่านทาง COSTCO ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 66 และ ปี 67 ของ TKN จะเติบโตจากปี 65 มาอยู่ที่ 611 ล้านบาท (+41%YoY) และ 695 ล้านบาท (+14%YoY) ตามลำดับ