บล.กสิกรฯคาดเจอแนวต้าน1,555 สัปดาห์หน้าลุ้นกนง.-ฟันด์โฟลว์

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยมองหุ้นแกว่งในกรอบ 1,500-1,555  จุด จาก 4 ปัจจัย กนง.ขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ปรับ-ฟันด์โฟลว์-ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ-สถานการณ์การเมือง ด้านค่าเงินบาทแบงก์กสิกรไทยคาดเคลื่อนไหวที่ระดับ 34.30-34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือนที่ 34.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (29 พ.ค.-2 มิ.ย.2566) ว่า ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,520 และ 1,500 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,545 และ 1,555 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (31 พ.ค.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองในประเทศ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค. ของจีน ญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน

ในวันศุกร์ (26 พ.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,530.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.05% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 47,456.70 ล้านบาท ลดลง 15.57%  ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.75% มาปิดที่ระดับ 484.38 จุด

ดัชนีหุ้นไทยชะลอลงปลายสัปดาห์ แต่ยังปิดสูงกว่าสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้หุ้นไทยดีดตัวขึ้นในช่วงแรกตามแรงซื้อคืนหลังร่วงลงแรงก่อนหน้านี้ ประกอบกับนักลงทุนคลายความกังวลบางส่วนต่อประเด็นการเมือง หลังจากมีความชัดเจนเกี่ยวกับ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลผสม ขณะที่หุ้นกลุ่มแบงก์ดีดตัวขึ้นรับโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของกนง.ในการประชุมวันที่ 31 พ.ค. นี้ อย่างไรก็ดี หุ้นย่อตัวลงช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนกลับมารอติดตามประเด็นการเมืองและการเจรจาเพื่อปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ นอกจากนี้หุ้นกลุ่มพลังงานยังย่อตัวลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก หลังมีข่าวว่า OPEC+ อาจไม่ปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมในการประชุมรอบหน้า

ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (29 พ.ค.-2 มิ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 34.30-34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังจากอ่อนค่าลงเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือนที่ 34.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับสกุลเงินในภูมิภาคและสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ตลาดยังคงติดตามสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้เงินดอลลาร์ฯ ขยับแข็งค่าขึ้นตามการปรับขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ และยังมีแรงหนุนจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าที่คาด ซึ่งกระตุ้นให้ตลาดบางส่วนกลับมาประเมินโอกาสความเป็นไปได้ของการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในเดือนมิ.ย.ใหม่อีกครั้ง แม้เสียงส่วนใหญ่จะมองว่า เฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมก็ตาม

ในวันศุกร์ที่ 26 พ.ค. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.38 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (19 พ.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 22-26 พ.ค. 2566 นั้น ขายสุทธิหุ้นไทย 12,189 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 20,824 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 17,664 ล้านบาท และมีตราสารหนี้หมดอายุ 3,160 ล้านบาท)