HoonSmart.com>> “บล.พาย” ยกสถิติหุ้นไทยหลังเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ ตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวกราว 2.6% เฉลี่ยจากการเลือกตั้ง 4 ครั้งของไทย ชี้กลุ่มค้าปลีกโดดเด่นสุด ประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ปรับขึ้นในกรอบ 1550 – 1600 จุด ชูหุ้นเด่น CPALL-M
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พาย เผยว่า จากสถิติแล้วหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย 1 สัปดาห์ SET INDEX มักให้ผลตอบแทนเด่นราว 2.6% (เฉลี่ยจากการเลือกตั้ง 4 ครั้งของไทย) โดยกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นสุดจะได้แก่ค้าปลีก 1 สัปดาห์หลังการเลือกตั้งให้ผลตอบแทนราว 3.3% อย่างไรก็ตามหลังการเลือกตั้งราว 1 เดือนผลตอบแทนมักเริ่มน้อยลงและ 3 เดือนผลตอบแทนมักติดลบ โดยปัจจัยเลือกตั้งเราเชื่อว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นระยะสั้น (ไม่เกินกว่า 1 เดือน) โดยที่ต้องติดตามได้แก่รัฐบาลชุดใหม่จะครองเสียงข้างมากในสภาได้หรือไม่ หากครองเสียงมากข้างมากได้ก็เชื่อว่าจะเป็นอีกปัจจัยหนุนตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตามระยะกลางถึงยาวปัจจัยที่มีผลกับตลาดหุ้นมากสุดคือผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ซึ่งปัจจุบันพบว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลกอย่างสหรัฐฯกำลังเริ่มประสบปัญหาระยะกลางขึ้นไปจึงเป็นไปได้ที่การขยายตัวของผลประกอบการจะเผชิญกับความเสี่ยงและย้อนกลับมากดดันตลาดหุ้น
ส่วนสัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับ (1) ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯในคืนวันอังคาร Bloomberg ประเมินขยายตัว 0.8%MoM จากเดือนก่อนหน้าหดตัวลง 1%MoM (2) คืนวันศุกร์ประธาน FED มีกำหนดแถลงที่ Washington DC ในหัวข้อมุมมองเกี่ยวกับนโยบายการเงินเชื่อว่าตลาดจะจับตารอดูถ้อยแถลงด้านดอกเบี้ย ซึ่งล่าสุด ตลาดเริ่มมองถึงโอกาสคงดอกเบี้ย
ส่วนในประเทศรอติดตาม GDP 1Q23 ในวันจันทร์ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 2.3%YoY หากรายงานแล้วสูงกว่าประเมินไว้จะเป็นปัจจัยหนุนให้กับตลาดหุ้นอื่นๆ ได้แก่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ข้อมูลล่าสุดจาก Bloomberg พบว่ารายงานออกมาแล้วราว 417 บริษัท (78% Market Cap) ของ SET INDEX พบว่ามีกำไรสุทธิรวมกันที่ 2.4 แสนล้านบาท (+80% QoQ +11% YoY) สาเหตุที่ขยายตัวเด่น QoQ ผลจาก SCC ที่ฐานกำไรต่ำในช่วง 4Q22 และ 1Q23 มีกำไรพิเศษรวมถึง TOP ที่ฟื้นตัวเด่นจากค่าการกลั่นและขาดทุนสต็อกที่ลดลง
บล.พายประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้มีโอกาสปรับขึ้นในกรอบ 1550 – 1600 เชิงกลยุทธ์เน้นหุ้นอิงในประเทศ อาทิ ค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, HMPRO) ธนาคาร (BBL, KBANK, KTB, SCB) ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA) ร้านอาหาร (M) สินค้า IT (COM7) นิคมฯ (AMATA, WHA) ขนส่ง (AAV, BA, BEM) กลุ่มสื่อ (PLANB)
หุ้นแนะนำ CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท) กำไรปกติไตรมาส 1/23 อยู่ที่ 3.8 พันล้านบาท (+8%YoY, +30%QoQ) ดีกว่าที่เราคาด สอดคล้องกับที่ Bloomberg consensus ประเมิน การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่แข็งแกร่งระดับ 8% และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่แข็งแกร่งในธุรกิจร้านสะดวกซื้อและขายส่ง ที่ช่วยชดเชยผลกระทบของผลตอบแทนพนักงาน
หุ้น M (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 64.00 บาท) กำไรไตรมาส 1/23 อยู่ที่ 326 ล้านบาท (+20%YoY, +2%QoQ) หนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่บวก 17% และคาดว่าจะช่วยชดเชยอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ลดเหลือ 65.1% ได้ ขณะที่ SSSG ในเดือน เม.ย. 2023 บวกอยู่ที่ 22%YoY