HoonSmart.com>>SF Express ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ “KEX” สัดส่วน 62.7% ลั่นพร้อมเพิ่มทุนตามสิทธิหรืออาจมากกว่าสิทธิ หลังบริษัทประกาศเพิ่มทุน 2,812.50 ล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม 0.6196 หุ้น : 1 ราคาหุ้นละ 3.20 บาท ขึ้น XR วันที่ 1 ส.ค. 2567ตอกย้ำความเชื่อมั่นและมั่นใจในศักยภาพของธุรกิจ เดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน
บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX รายงานการประชุมคณะกรรมการบริษัท ฯ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2567 มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 วันที่ 25 ก.ค. 2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 890 ล้านบาท เป็นทุนใหม่ 2,299,250,000 บาท โดยออกหุ้นใหม่ไม่เกิน 2,812.50 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม (RO) สัดส่วน 0.6196 หุ้นเดิม: 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 3.20 บาท และรองรับการปรับสิทธิวอร์แรนต์ของ ESOP Warrants จำนวน 6 ล้านหุ้น ขึ้น XR วันที่ 1 ส.ค. 2567 กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้น วันที่ 21 ส.ค.-27 ส.ค. 2567
ทั้งนี้ ราคาขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 3.20 บาท สูงกว่าราคาตลาดของวันที่ 14 มิ.ย.ปิดที่ 2.94 บาท ลดลง -0.28 บาท หรือ -8.70%
บริษัท SF Express ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ประมาณ 62.7% ของทุนชำระแล้ว ได้แจ้งว่ามีความพร้อมในการสนับสนุนการเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท และอาจแสดงความประสงค์จองซื้อในส่วนเกินสิทธิตามความเหมาะสม และไม่ก่อให้เกิดภาระในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท
“แผนการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ และความมั่นคงของเราอย่างยั่งยืน ซึ่งเชื่อว่า จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจ และที่สำคัญที่สุดคือการยกระดับอุตสาหกรรมของเราไปสู่อีกขั้น ให้เติบโตไปอย่างแน่นอน” นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) กล่าว
สำหรับเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้สำหรับการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งจะทำให้บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนและอัตราส่วนทางการเงินที่เหมาะสม เป็นไปตามข้อกำหนดของสถาบันการเงิน ตลอดจนรองรับโอกาสในการจัดหาเงินทุนในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทจะใช้เงินเพิ่มทุนเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง สนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนที่จำเป็นสำหรับการรักษาความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในระยะยาว