HoonSmart.com>>บอร์ด”จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น”(JTS) มีมติชำระทุนเต็มมูลค่าหุ้น “จัสเทล เน็ทเวิร์ค” (JasTel) 105 ล้านบาท หนุนทุนชำระแล้ว 520 ล้านบาท จ้างที่ปรึกษาทางการเงิน แตกบริษัทเข้าตลาดหุ้น SET มีมูลค่ายุติธรรม 16,000 – 20,000 ล้านบาท เพิ่มช่องทางระดมทุนในรูปแบบต่างๆ นำเงินขยายธุรกิจ โครงข่ายท้องถิ่นและภูมิภาค เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันในอนาคต ด้าน”จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล” (JAS) ถือหุ้นใหญ่ JTS กว่า 43% “พิชญ์”ถือเฉียด 5%
นายซัง โด ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น(JTS) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติที่สำคัญ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2567 อนุมัติให้ JTS ชำระทุนในบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค (JasTel) ให้เต็มมูลค่าหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 105 ล้านบาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 520 ล้านบาท และอนุมัติแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) เพื่อเตรียมความพร้อมในการออกและเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อ
ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
สำหรับ JasTel เป็นบริษัทย่อยของบริษัท JTS ดำเนินธุรกิจให้บริการวงจรเช่าและบริการรับ-ส่งข้อมูลภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเตรียมความพร้อมเพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเข้าตลาดหลักทรัพย์ (Spin-off) จากการประเมินมูลค่ายุติธรรม มีมูลค่าประมาณ 16,000 – 20,000 ล้านบาท
วัตถุประสงค์ของการนำ JasTel เข้าจดทะเบียนใน SET เพื่อเพิ่มช่องทางระดมทุนให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบต่างๆ และได้รับเงินทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO เพียงพอในการขยายธุรกิจโครงข่ายท้องถิ่นและภูมิภาค การให้บริการคลาวด์ บริการ OTT (Over-the-top) ที่จะเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขยายศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อให้บริการและรองรับการเติบโตของธุรกิจ Generative AI และเป็นเงินทุนในการดำเนินกิจการเพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอนาคต
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2567 ราคาหุ้น JTS ปิดที่ 71 บาท บวก 2 บาทหรือ 2.90% โดยมีบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ถือหุ้นใหญ่ที่สุดจำนวน 305.54 ล้านหุ้น สัดส่วน 43.24% และ นาย พิชญ์ โพธารามิก ถือหุ้นอันดับที่ 5 จำนวน 34,598,700 หุ้น หรือ 4.90% ทั้งนี้ นาย พิชญ์ ถือหุ้นอันดับหนึ่งของ JAS จำนวน 4,572.49 ล้านหุ้น สัดส่วน 53.21% ตีมูลค่าประมาณ 1.55 หมื่นล้านบาท เทียบกับราคาหุ้นปิดที่ 3.40 บาท -0.04 บาทหรือ -1.16%