ดาวโจนส์ปิดลบ 87 จุด จ้างงานแกร่ง คาดเฟดเริ่มลดดอกเบี้ยพ.ย.

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 ดัชนีหลักปิดร่วง ดาวโจนส์ลบ 87 จุด หลังข้อมูลจ้างงานพ.ค. แกร่งเกินคาด คลายกังวลภาวะเศรษฐกิจ แต่วิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐจะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงอีกนาน ด้านราคาน้ำมันดิบลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก
   
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 7 มิถุนายน 2567 ปิดที่ 38,798.99 จุด ลดลง 87.18 จุด หรือ -0.22% หลังข้อมูลการจ้างงานประจำเดือนพฤษภาคมแกร่งเกินคาด แม้ทำให้คลายกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจแต่วิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงอีกนาน
      
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,346.99 จุด ลดลง 5.97 จุด, -0.11%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,133.12 จุด ลดลง 40.00 จุด, -0.23%
      
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.29% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.32% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.38%
      
กระทรวงแรงงานรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤษภาคมว่าเพิ่มขึ้น 272,000 ตำแหน่ง จาก 175,000 ตำแหน่ง ในเดือนเมษายน และสูงกว่า 190,000 ตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาดในการสำรวจของ ดาวโจนส์
      
ค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบรายปี ส่วน อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมาที่ 4% จากที่คาดว่าจะทรงตัวที่ 3.9%
      
นักลงทุนพากันหวังที่จะเห็นข้อมูลตลาดแรงงานที่อ่อนแอ เพื่อที่จะเป็นปัจจัยเปิดทางให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ข้อมูลล่าสุดที่แสดงถึงความแข็งแกร่ง ทำให้หันไปที่ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ที่ยังขยายตัวได้โดยไม่ต้องอาศัยดอกเบี้ยต่ำ
      
แคธลีน บรูคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของแพลตฟอร์มการซื้อขาย XTB กล่าวว่า ตลาดช็อกกับตัวเลขการจ้างงาน
      
การจ้างงานที่ยังเพิ่มมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นักวิเคราะห์จึงคาดว่าเฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกระยะหนึ่ง
      
ปีเตอร์ คาร์ดิลโล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ตลาดของ Spartan Capital Securities กล่าวว่า การจ้างงานแข็งแกร่ง และบ่งชี้ว่าไม่มีสัญญาณของการชะลอตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจและผลบวกต่อรายได้ของบริษัท แต่ก็เป็นผลลบในแง่ของโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นเดือนกันยายน
      
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีบ่งชี้การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นมาที่ 4.8868% หลังจากลดลงติดต่อกันหกวันจนถึงวันพฤหัสบดี
      
หลังการรายงานข้อมูลเทรดเดอร์มองว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากระดับสูงสุดในรอบ 23 ปีที่ 5.25-5.5% ภายในเดือนพฤศจิกายน แต่โอกาสที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% จุดในเดือนกันยายนเหลือ 56% จากประมาณ 70% ในวันพฤหัสบดี
      
การดำเนินนโยบายของเฟดในการประชุมสัปดาห์หน้าเป็นที่จับตาโดยเฉพาะหลังจากธนาคารกลางยุโรปได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงในวันพฤหัสบดี ซึ่งก็คาดว่าเฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ย แต่ในครึ่งหลังของปียังไม่แน่นอนว่าเฟดจะดำเนินการอย่างไร
      
หุ้น Nvidia ปิดลบ 0.1% แต่รอบสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้น 10%

      
      
ตลาดยุโรปปิดบวก นำโดยกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ทั้งอสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภค หลังสหรัฐรายงานข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ทำให้กังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะไม่ปรับลดอกเบี้ยลงในเร็วๆนี้
      
ในสัปดาห์นี้ดัชนี STOXX 600 ปิดในแดนบวกในรอบ 3 สัปดาห์
      
การจ้างงานที่สูงเกินคาดในเดือนพฤษภาคมและค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นทำให้โอกาสน้อยลงที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
      
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรพัย์ลดลงเกือบ 3% จากการร่วงลง 7.2% ของหุ้น Vonovia ในเยอรมนีหลังมอร์แกนสแตนเลย์ปรับลดคำแนะนำ
      
พันธบัตรของเยอรมนีปรับเพิ่มขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคหลังข้อมูลจ้างงานสหรัฐ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีมาอยู่ที่ 2.622%
      
อย่างไรก็ตามการปรับขึ้น 0.5% ของกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น 0.4% ช่วยไม่ให้ตลาดอ่อนตัวลงมาก
      
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 523.55 จุด ลดลง 1.13 จุด, -0.22%
      
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,245.37 จุด ลดลง 39.97 จุด,-0.48%
      
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,001.80 จุด ลดลง 38.32 จุด, -0.48%,
      
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,557.27 จุด ลดลง 95.40 จุด, -0.51%
      
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 75.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 79.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล