“คิงส์ฟอร์ด” แนะทยอยเก็บ 10 หุ้นเด่น ชู AOT-CPALL

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,500 – 1,520 แนวต้าน 1,540 จุด ประเมิน Downside ดัชนีเริ่มจำกัด แนะนำทยอยซื้อสะสม “BBL, SCB, KTB ค้าปลีก CPALL, BJC, CRC สื่อสาร ADVANC, INTUCH ไฟแนนท์ SAWAD, AEONTS” พร้อมคัดหุ้นแนะนำวันนี้ AOT,CPALL

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,500 – 1,520 แนวต้าน 1,540 จุด ประเมิน Downside ดัชนีเริ่มจำกัด โดยปัจจุบันซื้อขายที่ F/PE ที่ 15 เท่า แนะนำทยอยซื้อสะสม เช่น BBL, SCB, KTB ค้าปลีก CPALL, BJC, CRC สื่อสาร ADVANC, INTUCH ไฟแนนท์ SAWAD, AEONTS

ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.14%, S&P500 -0.04%, Nasdaq -0.11% กลุ่มพลังงาน -1.26%แรงขายกลุ่มพลังงานลดลงตาม WTI -1.4% กอปรสำนักงานคุ้มครองการเงินและนวัตกรรมแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียได้สั่งปิดกิจการของ First Republic Bank (FRB) และขายกิจการให้กับ JP.Morgan ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดทำการในวันหยุดแรงงาน

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มพลังงานลดลงตาม WTI -1.4% กอปรการสั่งปิด FRB และขายกิจการให้กับ JP.Morgan

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท) แนวโน้ม 2Q65/66 (ม.ค.-มี.ค.65) คาดฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยมากกว่า 6 ล้านคน และแนวโน้ม 3Q65/66 ยังดีต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มทยอยกลับเข้ามา ส่วนในปี 65/66 (ต.ค.65-ก.ย.66) คาดการณ์ผลประกอบการพลิกเป็นกำไรสุทธิ 1 หมื่นล้านบาท ภายใต้สมมติฐานจำนวนเที่ยวบินรวม 6.6 แสนเที่ยวบิน +69%YoY จำนวนผู้โดยสารรวม 95.7 ล้านคน +105%YoY

ขณะที่มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าและสายการบินจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.66 ทำให้ King power จะเริ่มจ่ายเงิน Minimum Guarantee ตามสัญญา Duty Free ฉบับใหม่ ช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ในช่วง 2H65/66 โดยมีความคาดหวังว่านักท่องเที่ยวปี 66 ที่อาจสูงถึง 30 ล้านคน

หุ้น CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.50 บาท) เบื้องต้น ประเมินกำไรสุทธิ 1Q66 ที่ 3,588 ล้านบาท (+3.91% YoY, +14.35%QoQ) ยังสามารถฟื้นตัวได้แม้จะมีปัจจัยกดดันจากค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค และต้นทุนทางการเงิน แต่เราคาดว่าการเติบโตที่ดีของรายได้ PostCovid-19 และการกลับมาของนักท่องเที่ยวจะ outweight ปัจจัยลบในด้านค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้

ขณะที่ในระยะถัดไป เราคาดว่าการฟื้นตัวของกำไรจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องจาก 1.การ refinance ของ MAKRO 2.การใช้จ่ายที่คาดว่าจะสูงขึ้นช่วงสงกรานต์และการเลือกตั้ง 3.อัตราค่าไฟฟ้าft ภาคธุรกิจที่ลดลงในงวดพ.ค. – ส.ค.66 ปัจจุบัน เราประมาณการกำไรสุทธิของปี66 และ 67 อยู่ที่ 17,088 ล้านบาท (+28.75%YoY) และ19,327 ล้านบาท (+13.11%YoY)