HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 4.34 จุด แกว่งไซด์เวย์ แนวรับช่วงสั้น 1,550-1,555 จุด ในช่วงโฟกัสงบฯไตรมาส 1/66 และรอดูการประชุมเฟดเดือนพ.ค.
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 24 เม.ย.2566 ณ เวลา 10.07 น.อยู่ที่ระดับ 1,554.02 จุด ลดลง 4.34 จุด หรือ -0.28% มูลค่าซื้อขาย 5,117.32 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index แกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,550-1,555 จุด โดยสัปดาห์นี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญปลายสัปดาห์คือ GDP ไตรมาส 1/66 ของทั้งสหรัฐฯและยูโรโซนซึ่งตลาดยังคาดเห็นการเติบโต q-q รวมถึงเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางตลาดในระยะถัดไป
ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสยังอยู่ที่การประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของบริษัทจดทะเบียนหลังจากกลุ่มธนาคารออกมาครบแล้วและดีกว่าคาด ทำให้เชื่อว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อฝั่ง Real Sector โดยเฉพาะ Domestic Play ที่จะทยอยประกาศในช่วงถัดไป โดยประเด็นค่าไฟอาจกดดันการฟื้นตัวของ Margin อยู่บ้าง แต่จะดีขึ้นในไตรมาส 2/66 หลังค่าไฟภาคธุรกิจปรับลงมาเท่าภาคครัวเรือนที่ 4.70 บาท/หน่วย
ตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ค. ค่อนข้างแน่สู่ระดับ 5-5.25% ก่อนตรึงในระดับสูงไปยังครึ่งหลังปี 66 และคาดให้น้ำหนักกับตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการเติบโตของเศรษฐกิจฝั่งเอเชียรวมถึงไทยที่ดูแข็งแกร่งกว่าฝั่งตะวันตกคาดว่ายังช่วยจำกัด Downside ขอดัชนีได้บ้าง นอกจากนี้หากผลการเลือกตั้งของไทยออกมาในเชิงบวกโดยมีแนวโน้มจัดตั้งรัฐบาลใหม่อย่างมีเสถียรภาพได้จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดฯในครึ่งหลังปี 66 ถึงปี 67 จึงยังชอบหุ้น Domestic Play และคาด Outperform Global Play ได้ต่อเนื่อง ระยะสั้นเน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไรไตรมาส 1/66 แข็งแกร่ง
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนผสมผสานและโดยรวมทรงตัว เม็ดเงินไหลเข้าเกาหลีใต้ แต่ไหลออกจากไต้หวันใกล้เคียงกันประเทศละ 91-93 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอาเซียนไหลเข้าไทยแต่ไหลออกจากเวียดนามบางๆ แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่าผสมผสานโดยรอจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่าง GDP ไตรมาส 1/66 ของทั้งสหรัฐฯและยูโรโซน รวมถึงเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯในสัปดาห์นี้
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA อยู่ที่ 908.00 บาท เพิ่มขึ้น 18.00 บาท หรือ +2.02% มูลค่าซื้อขาย 358.69 ล้านบาท
TISCO อยู่ที่ 90.50 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ -1.36% มูลค่าซื้อขาย 312.80 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 128.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยน่แปลง มูลค่าซื้อขาย 312.73 ล้านบาท
BDMS อยู่ที่ 29.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยน่แปลง มูลค่าซื้อขาย 299.35 ล้านบาท
SCB อยู่ที่ 103.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยน่แปลง มูลค่าซื้อขาย 276.57 ล้านบาท