10 แบงก์ฟันกำไร 6 หมื่นล.โต 13% แบกสำรองหนี้กว่า 5 หมื่นล. Q1/66

HoonSmart.com>>ธนาคารพาณิชย์ประกาศกำไรไตรมาส1/66 สูง รวมทั้งสิ้น 60,281 ล้านบาท เติบโต 13% โดยเฉพาะแบงก์กรุงเทพ (BBL) พุ่งขึ้นสูงที่สุด 42% ตามด้วยทหารไทยธนชาต (TTB) โต 34% กรุงไทย (KTB) โชว์ 1 หมื่นล้านบาท เหนือคาด นักวิเคราะห์แห่เพิ่มเป้ากำไรและราคาหุ้น คาด NIM เพิ่มต่อตามดอกเบี้ย  ส่วนกสิกรไทย (KBANK) ไทยพาณิชย์ (SCB) เจอพิษลูกค้ารายใหญ่ ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ซีไอเอ็มบีฯ สำรองพุ่งขึ้นมากสุด 128% รวม 10 แบงก์ตั้งสำรองหนี้กว่า 50,981 ล้านบาท กำไรที่ออกมาดีหนุนราคาตีกลับแรง  BBL ได้ปันผลฟรี 3 บาท  SCB-KBANK ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นพระเอก วันที่ 21 เม.ย.66 นำโดย BBL ขึ้นไปสูงสุด 161.50 บาทก่อนปิดที่ 159.50 บาท บวก 1 บาทหรือ +0.63% ในวันขึ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย XD ปันผล 3 บาท  ส่วน SCB ตีกลับแรง 3.25 บาทหรือ3.26% ปิดที่ 103 บาท KBANK ปิดที่ 128.50 บาท +2.50 บาทหรือ +1.98% หลังจากวันก่อนดิ่งลงเหว ตกใจผลกระทบจากกรณีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น(STARK) ผิดนัดชำระหนี้  ด้าน KTB วิ่งแรงต่อจากวันก่อน ปิดที่ 18.20 บวก 0.70 บาทหรือ 4% TTB ปิดที่  1.49 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาทหรือ +4.93%

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ฟื้นตัวขึ้นได้ คาดว่าจะเป็นผลจากผลประกอบการของ BBL ออกมาดี และ KBANK งบฯที่ออกมาไม่ได้สร้างความกังวลแต่อย่างใด โดย KBANK มีการตั้งสำรองฯส่วนหนึ่งไปแล้ว ซึ่งตลาดคาดเดาว่าจะเป็นการตั้งสำรองฯของ STARK และกรณีของ STARK ก็น่าจะมีหลักประกันบางส่วนอยู่ด้วย

นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นได้ในช่วงสั้นหลังจากที่ปรับตัวลงไปมากแล้ว และอยู่ในจุดที่ฟื้นตัวได้ แต่การฟื้นตัวไม่น่าจะทำจุดสูงสุด  คาดว่ากลุ่มธนาคารจะฟื้นตัวได้ก็ราว 5-7% ในรอบนี้ เนื่องจากน้ำหนักการลงทุนของกลุ่มธนาคารมีโอกาสที่จะปรับตัวลงจากที่อยู่ในจุดเปลี่ยนแปลงทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้สูงสุดแล้ว

ด้านผู้บริหารธนาคารกสิกรไทยพบนักวิเคราะห์คงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้  5-7% และ NIM  3.3-3.45%