HoonSmart.com>>หุ้นน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ “พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช (PQS)” เปิด 24 รายชื่อผู้ได้รับจัดสรรหุ้น IPO สูงสุด รวมทั้งสิ้น 69.09 ล้านหุ้น มูลค่าเฉียด 415 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 40% ของจำนวนที่เสนอขายทั้งหมด นำทีมโดย ต๊อด (ปิติ ภิรมย์ภักดี) -ธนัช จุวิวัฒน์ (บิ๊กYGG) -ดํารงค์ พิทักษ์สิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซูซุสงวนไทย กรุงเทพ ได้สูงสุดเท่ากันคนละ 5 ล้านหุ้น หรือ2.94% ใช้เงินลงทุน 30 ล้านบาท/ราย มานิตย์(เบิร์ท) นักลงทุน ใช้เงิน 18 ล้านบาทซื้อ 8 ล้านหุ้น ใกล้เคียง”ภิญญลักษน์ กีรติพัฒนนันท์”ผู้ถือหุ้นใหญ่ UREKA ส่วนรายที่ 12-24 ได้คนละ 2 ล้านหุ้น อาทิ “สุวรรณี ลีลาประชากุล”- “เพ็ญจันทร์ ยงวงศ์ไพบูลย์” ราคาหุ้นวันแรกไล่ขึ้นไปสูงลิ่ว 15.80 บาท ปิดต่ำสุด 5.75 บาท ด้านหุ้นใหม่ไตรมาสแรกปี66 มีเข้า SET 3 บริษัท และ mai 9 บริษัท
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยแบบรายงานผลการขายหุ้น IPO บริษัท พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช (PQS)โดยจัดสรรให้บุคคลไทยมากที่สุดจำนวน 3,979 ราย จำนวน 169.41 ล้านหุ้น สัดส่วน 99.65%ของจำนวนที่เสนอขายทั้งหมด 170 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 6 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,020 ล้านบาท
นักลงทุนที่ได้รับการจัดสรรหุ้น PQS สูงสุด 20 อันดับแรกมีทั้งสิ้น 24 ราย โดย 3 อันดับแรกได้จำนวนเท่ากันคนละ 5 ล้านหุ้น หรือ 2.94% มูลค่า 30 ล้านบาท ได้แก่ นาย ปิติ ภิรมย์ภักดี หรือ ต๊อด จากบริษัทบุญรอดฯ นาย ธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ 41% ของบริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป (YGG)นายดำรงค์ พิทักษ์สิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซูซุสงวนไทย กรุงเทพ จำกัด ตามด้วยนาย สมพงษ์ แซ่ลิ้ม ได้ 4.4 ล้านหุ้น หรือ 2.59% มูลค่า 26.4 ล้านหุ้น
นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนได้รับจัดสรรหุ้น PQS ด้วย เช่นนาย มานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ หรือเบิร์ท ได้จำนวน 3 ล้านหุ้นเศษ ใช้เงินลงทุน 18 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ น.ส. ภิญญลักษน์ กีรติพัฒนนันท์ ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ (UREKA)สัดส่วน 15%
สำหรับนักลงทุนที่ได้รับจัดสรรสูงสุดตั้งแต่อันดับที่ 12-24 ได้คนละ 2 ถึง 2 ล้านหุ้นเศษ หรือ 1% เศษ อาทิ น.ส. สุวรรณี ลีลาประชากุล ได้รับจัดสรรเนื่องจากเป็นผู้ให้คําปรึกษา/คําแนะนําในการดําเนินธุรกิจด้านต่างๆ นาง เพ็ญจันทร์ ยงวงศ์ไพบูลย์ได้รับจัดสรรจำนวน 2 ล้านหุ้น ใช้เงินลงทุน 12 ล้านบาท
ขณะที่ราคาหุ้น PQS เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) วันที่ 15 ก.พ.2566 เปิดตลาดด้วยราคาที่สูงถึง 14 บาท แจกกำไรให้แก่คนจองซื้อหุ้นที่ 6 บาท มากถึง 133% หรือ 8 บาท/หุ้น และไล่ราคาขึ้นไปสูงสุดแตะ 15.80 บาท หลังจากนั้นเทกระจาดจนปิดตลาดที่ราคาต่ำที่สุด 5.75 บาท ต่ำกว่าจอง 0.25 บาทหรือ -4.17% และราคายังคงไหลลงต่อเนื่องในไตรมาสแรก ต่ำที่สุด 3.98 บาท ล่าสุดวันที่ 7 เม.ย. ปิดที่ 4.10 บาท หรือต่ำกว่า IPO หุ้นละ 1.90 บาท หรือ ประมาณ 31.67%
ด้านผลการดำเนินงานประจำปี 2565 มีกำไรสุทธิ 283.65 ล้านบาท เท่ากับหุ้นละ 0.62 บาท ลดลง30.17 ล้านบาท คิดเป็น 9.61% เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 313.82 ล้านบาทหรือ 0.73 บาทต่อหุ้น