“คิงส์ฟอร์ด” แนะเก็งกำไร 8 หุ้นโรงไฟฟ้ารับกพช.ซื้อไฟฟ้าสะอาดเพิ่ม

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับดัชนี 1,600 – 1,605 แนวต้าน 1,620 จุด รอตัวเลขจ้างงานสหรัฐ แนะทยอยซื้อ Domestic Play เล่นเก็งกำไรกลุ่มโรงไฟฟ้า รับกพช.เคาะรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดเพิ่ม 3,668.5 MW ชูหุ้น GULF, GUNKUL, GPSC, ACE, SSP, TSE, ETC, SUPER

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด คาดดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,600 – 1,605 แนวต้าน 1,620 จุด รอตัวเลขจ้างงานสหรัฐ แนะนำทยอยซื้อ Domestic Play เช่น OSP, ICHI, SNNP, CPALL กลุ่มปลอดภัย ADVANC,INTUCH, GULF, GPSC อสังหา ORI, ANAN, AMATA, WHA

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.66%, S&P500 -1.85%, Nasdaq -2.05% กลุ่มธนาคาร -4.1% หลัง SVB Financial Group -60% ปล่อยกู้ในธุรกิจเทคโนโลยีประกาศขายกิจการมูลค่า 1.75 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากขาดสภาพคล่อง เช่นเดี่ยวกับ Silvergate -42.16%ปล่อยกู้ในธุรกิจคริปโท ได้ยุติกิจการและพักชำระหนี้

ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.22% กลุ่มอสังหา ฯ -3.2% ต่ำสุดในรอบ 2 เดือนจากความกังวลต้นทุนการเงินสูงขึ้น ขณะที่กลุ่มเหมืองแร่ -2.7% หลังราคาทองแดงปรับลดลง หลังตัวเศรษฐกิจจีน CPI, PPI ก.พ. ชะลอตัว

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ กลุ่มโรงไฟฟ้า มีประเด็นบวกจาก กพช.เห็นชอบการปรับแผนรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดเพิ่มอีก 3,668.5 MW จากปัจจุบันเปิดรับซื้ออยู่ 5,203 MW ใน “โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565” โดยจะมาจากโซลาร์ฟาร์ม 2,632 MW, พลังงานลม 1,000 MW, ก๊าซชีวภาพ 6.5 MW, ไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม 30 MW (เพิ่มขึ้นจากรอบแรกที่เปิดรับซื้อรวม 5,203 MW โดยโซลาร์ฟาร์มรับซื้อ 2,368 MW, พลังงานลมรับซื้อ 1,500 MW, ก๊าซชีวภาพ เดิมไม่มีรายใดเสนอขายไฟฟ้าเข้ามา และไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม 100 เมกะวัตต์) ซึ่งการเปิดรับซื้อในรอบนี้จะเกิดต่อเนื่องหลังรอบแรกเสร็จในเดือน เม.ย.โดยบริษัทที่มีศักยภาพที่มีโอกาสยื่นขายไฟเพิ่ม แนะนำเก็งกำไร GULF GUNKUL GPSC ACE SSP TSE ETC SUPER

หุ้น ITNS (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 4.92 บาท) ปัจจุบัน เราประเมินกำไรสุทธิในปีนี้ที่ 70.45 ล้านบาท (+27.76%) เติบโตตามปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นปี 65 บาท มี backlog มูลค่าราว 417 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ในปี 66 ที่ 332 ล้านบาทขณะที่เราคาดว่าช่วงครึ่งปีแรกนี้จะเห็นปริมาณงานเพิ่มขึ้นราว 500 ล้านบาท (งานที่บริษัทเข้าร่วมประมูลในช่วง ม.ค.66-ก.พ.66 อยู่ที่ราว 280 ล้านบาท)

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในระยะถัดไปเราคาดว่านอกจากงาน System Intregation ที่เป็นงานขายและติดตั้งจะเพิ่มขึ้นแล้ว งานในส่วนที่เป็น recurring income อย่างงาน Maintainance และ งานให้เช่า ก็จะเพิ่มขึ้นไล่ขึ้นมาเช่นกัน(หลังได้งานติดตั้งก็ทำงานบำรุงในโครงการต่อ/ งานให้เช่ามีศักยภาพมากขึ้นหลังจากได้เงินจาก IPO) โดยทางผู้บริหารให้เป้าการเติบโตรายได้ในระยะ 3-5 ปีที่ราว 25-30%/ปี