กูรูแนะวิธีเลือกลงทุน หุ้น-หุ้นกู้ ชั้นดี

HoonSmart.com>>”หุ้นสมาร์ท” ฉลองครบรอบ 5 ปี จัดงานสัมมนา “หุ้น-หุ้นกู้ที่ต้องมีไว้ลงทุน” บลจ.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ มองทิศทางหุ้นดูดี มองข้ามกำไรบจ. Q4/65 หดตัว 40% โชว์รายได้โต 13% เศรษฐกิจฟื้น ส่วนหุ้นกู้มีโอกาสจากเงินเฟ้อก.พ.ต่ำกว่าคาด ดอกเบี้ยขาขึ้นเริ่มแผ่ว บล.บลูเบลล์ แนะวิธีเลือกหุ้นกู้ชั้นดี เน้นกระแสเงินสด-ผู้บริหาร-ผลตอบแทน นายกสมาคม VI ชวนเฟ้นหาหุ้นคุณค่า 5 ตัวเด่น ถือยาว 5-10 ปี พุ่งเป้าขาใหญ่ธุรกิจ คู่แข่งเข้ามายาก “สบาย เทคโนโลยี (SABUY)” เปิดโมเดลซื้อกิจการ ปีนี้ตั้งเป้ารายได้กระโดดแตะ 2 หมื่นล้าน  

“หุ้นสมาร์ท” ฉลองครบรอบ 5 ปี “เสนอความจริง ทุกการลงทุน” จัดงานสัมมนา “หุ้น – หุ้นกู้ที่ต้องมีไว้ลงทุน” เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2566 โดยนายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุด ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ.2566 เพิ่มขึ้น 3.79% ต่ำกว่าที่คาด มองเป็นโอกาสในการลงทุนหุ้นกู้ ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังพื้นตัว ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเริ่มแผ่ว โอกาสกำลังเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นและตราสารหนี้

“จากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/2565 ที่ออกมาแย่มาก จำนวนกว่า 500 บริษัทมีกำไรเพียง 1.5 แสนล้านบาท หดตัว 40% เมื่อดูผลกำไรแย่ แต่รายได้ยังเติบโต 13% ถือว่าดีกว่าที่คาด ปัญหาจึงอยู่ที่ค่าใช้จ่าย ซึ่งบริษัทใส่ค่าใช้จ่ายเข้ามาในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา จึงมองเป็นโอกาส หุ้นน่าจะวิ่งได้จนถึงมีการเลือกตั้ง”

ประกิต สิริวัฒนเกตุ

นายประกิต กล่าวว่า  หลังเลือกตั้งต้องรอดูรัฐบาลใหม่ ว่ามีนโยบายที่จะสามารถสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจได้อย่างไร สำหรับการลงทุนหุ้นกู้ ให้พิจารณาว่าบริษัทใดที่ฝ่ามรสุมมาได้ น่าจะเติบโต เพราะเศรษฐกิจในปีนี้น่าจะกลับมาฟื้นตัว เพราะนักท่องเที่ยวกลับมา เป็นจังหวะของการเก็บหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนสูง

น.ส.นริสรา ชัยวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ กล่าวว่า ปี 2565 ที่ผ่านมา หุ้นกู้คึกคักมาก สูงมากเป็นประวัติการณ์ 1.27 ล้านล้านบาท ทุกอุตสาหกรรม พลังงาน พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ไฟแนนซ์ ส่วนธุรกิจที่เหมาะออกหุ้นกู้ เป็นโครงการที่มีมูลค่าสูง และต้องเป็นหุ้นกู้ที่มีเรตติ้ง จึงจะสามารถลงทุนได้ โดยพิจารณาจากกระแสเงินสดเป็นหลัก รวมถึงผู้บริหาร และอัตราผลตอบแทน

นริสรา ชัยวัฒนะ
นริสรา ชัยวัฒนะ

ขณะที่ นายเฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) กล่าวว่า สำหรับนักลงทุนคุณค่า จะเน้นหาหุ้นแค่ 5 ตัว และถือยาว 5 – 10 ปี ต้องเป็นหุ้นที่มีความรู้ ถ้าไม่รู้ อย่าเสี่ยง  รวมถึงหุ้นที่เป็นผู้นำธุรกิจ คู่แข่งเข้ามายาก  ซึ่งตลาดหุ้นไทยยังคงมีความหวัง เพราะหุ้นคุณค่าที่สามารถลงทุนได้ประมาณ 30 ตัว ที่ให้ผลตอบแทนแบบทุบสถิติ แม้ตลาดหุ้นจะไม่ดี

เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ

ด้านนาย ณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท สบาย เทคโนโลยี (SABUY) กล่าวว่า สบาย เทคโนโลยี ปัจจุบัน มี 58 บริษัทในเครือ มี 5 บริษัทที่จดทะเบียในตลาดหลักทรัพย์ คำนิยามธุรกิจของ สบาย คือเป็นจุดศูนย์รวมของการต่อเชื่อมธุรกิจและผู้บริโภค ปัจจุบันมีฐานลูกค้า 100 ราย คาดว่ารายได้จะเพิ่มจาก 5,300 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ 2 หมื่นล้าน และตั้งงบลงทุน 1 หมื่นล้านบาท

“การซื้อกิจการเพิ่มเข้ามา อาทิ ซิงเกอร์ เรามองเป็นการซื้อโอเปอเรชั่น เพื่อสร้างทัชพอยท์ให้พาร์ทเนอร์ ตลาดจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร เราต้องปรับตัววิ่งเข้าหาลูกค้า สบาย เราซื้อกิจการอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อตอบโจทย์อีโคซิสเต็มส์ของสบาย” ณรงค์ชัยกล่าว

ณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์