HoonSmart.com>>”บางกอก เดค-คอน” ดีขึ้นทุกมิติ โชว์งบแกร่ง ปี 65 กวาดรายได้ 772.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% กำไรสุทธิแตะ 123.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% บอร์ดไฟเขียวปันผล 0.06 บาท/หุ้น ตั้งเป้าปีนี้รายได้โต 10- 15 % กอด Backlog กว่า 1 พันล้านบาท เผยกลุ่ม JMART เข้ามาเป็นพันธมิตรถือหุ้นเฉียด 10% หนุนผลงานเติบโตแข็งแกร่ง
นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บางกอก เดค-คอน ( BKD)ผู้นำธุรกิจรับเหมาตกแต่งภายในครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 123.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 92.43 ล้านบาท มีรายได้จากการขายและบริการมากถึง 772.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายและบริการ 437.62 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 63.02 ล้านบาท หรือลดลง 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ด้านคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้จ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น สำหรับงวดผลการดำเนินงานปี 2565 หุ้นละ 0.06 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 9 มี.ค. 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 เม.ย.นี้ ซึ่งจะมีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 4 เมษายน 2566 เพื่อขออนุมัติให้มีการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น
ส่วนภาพรวมฐานะการเงินของบริษัท มีความแข็งแกร่งขึ้น ณ สิ้นปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 1,924.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน ที่อยู่ในระดับ 1,872.76 ล้านบาท ขณะที่หนี้สินรวมลดลง 4% เหลือ 419.35 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ในระดับ 436.76 ล้านบาท ในขณะที่ส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 5% เป็น 1,505.30 ล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1,436.00 ล้านบาท และสัดส่วนหนี้สินต่อทุน( D/E ) ลดลง เหลือเพียง 0.28 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ในระดับ 0.30 เท่า
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปี 2566 แม้จะเป็นอีกปีที่มีความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว แต่ BKD ก็มั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของงานตกแต่งภายในอาคารและปรับปรุง ในกลุ่มโรงแรม สำนักงาน ห้างสรรพสินค้าและโรงพยาบาล รวมทั้งการรับงานตกแต่งภายในบ้านเศรษฐี โดยปัจจุบันมีมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้อยู่ในมือ (Backlog) ที่ระดับ 1,024.77 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายว่า ปี 2566 รายได้รวมจะเติบโตประมาณ 10-15 %
นอกจากนี้การที่บริษัท เจ มาร์ท (JMART) เข้ามาเป็นพันธมิตรถือหุ้นสัดส่วน 9.20% ก็จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต ให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและหารือร่วมกันว่าจะเข้ามาสนับสนุนธุรกิจ BKD ในส่วนใดบ้าง