HoonSmart.com>>”ซีพี ออลล์ (CPALL)”ยิ้มธุรกิจโต ปี65 โกยกำไร 13,271.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.21% รายได้พุ่งขึ้น 45% เป็น 852,605 ล้านบาท บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.75 บาท/หุ้น แผนปี 66 ตั้งงบลงทุนประมาณ 12,000-13,000 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขาใหม่อีก 700 แห่ง ลงทุนโครงการใหม่ 4,000-4,100 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายอัตรากำไรขั้นต้นโตต่อเนื่อง
บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL)มีกำไรสุทธิ 13,271.71 ล้านบาทหรือ 1.39 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 286.71 ล้านบาทหรือ 2.21%จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 12,985ล้านบาทหรือ 1.33 บาทต่อหุ้น เนื่องจากทุกกลุ่มธุรกิจปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจแม็คโคร โดยคณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.75 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 6,737,326,011 บาท คิดเป็น 59% ของกำไรสุทธิ ให้ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในทะเบียนในวันที่ 3 พ.ค. 2566 กำหนดจ่ายเงินวันที่ 19 พ.ค.2566
นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน CPALL กล่าวว่า กำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้รวม 852,605 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 45.1% มาจากรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 829,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.7% เนื่องจากบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ด้านสินค้าและบริการ รวมถึงกลยุทธ์ O2O ของแต่ละหน่วยธุรกิจ ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อสอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไปสู่วิถีชีวิตใหม่ รวมถึงความได้เปรียบจากฐานรายได้ที่ต่ำจากปีก่อนหน้า
“ธุรกิจร้านสะดวกซื้อปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี ส่วนธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งธุรกิจแม็คโคร และโลตัสส์ มีการเติบโตเช่นกัน ขณะเดียวกันกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการ 177,999 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นตามรายได้จากการขายสินค้าของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจแม็คโครที่ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนรวมถึงกำไรขั้นต้นจากธุรกิจโลตัสส์ที่รับรู้เต็มปี ภายหลังการรวมธุรกิจ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้นเป็น 21.5% จาก 21.3% ในปี 2564”
บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายร้านสาขาในทำเลที่ดี โดยตั้งเป้าหมายที่จะขยายสาขาจำนวน 700 สาขาต่อปี ซึ่งในปี 2565 ได้ขยายสาขา 7-Eleven ทั้งร้านบริษัท ร้านSBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต รวมทั้งสิ้น 704 สาขา ตามเป้าหมาย ดังนั้น ณ สิ้นปี 2565 บริษัทฯมีสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 13,838 สาขา
ในด้านของผลิตภัณฑ์และการบริการ บริษัทฯยังคงมุ่งพัฒนาไปสู่การเป็นร้านอิ่มสะดวกเต็มรูปแบบ และบริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนผู้ถือหุ้นตามนิยามข้อกำหนดสิทธิ 0.92 เท่าเพิ่มขึ้นจาก 0.90 เท่า จากการออกหุ้นกู้ระหว่างปี
ส่วนแผนงานปี 2566 บริษัทตั้งเป้าขยายอัตรากำไรขั้นต้นให้ได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน เน้นการพัฒนาระบบในการคัดสรรสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นและผลักดันให้มีสัดส่วนของสินค้าที่กำไรขั้นต้นสูงเพิ่มขึ้น ทั้งจากสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภค นอกจากนี้ได้ประมาณการงบลงทุน ประมาณ 12,000-13,000 ล้านบาท แบ่งจำนวน 3,800-4,000 ล้านบาทสำหรับการเปิดสาขาใหม่อีก 700 สาขา ปรับปรุงร้านเดิม 2,900-3,500 ล้านบาท ลงทุนโครงการใหม่ 4,000-4,100 ล้านบาท