หุ้นเช้านี้ลบ 1.79 จุด ช่วงสั้นพักฐาน-เฟดขึ้นดบ.กดดัน

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 1.79 จุด บรรยากาศการลงทุนขาดปัจจัยใหม่หนุน-เฟดยังจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อสูง ส่งจำกัดอัพไซด์สินทรัพย์เสี่ยงช่วงสั้น ส่วนในประเทศโฟกัสงบฯไตรมาส 4/65 ซึ่งภาพรวมยังอ่อนกว่าคาด จึงมองตลาดอยู่ในช่วงพักฐาน

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 23 ก.พ.2566 ณ เวลา 9.58 น. อยู่ที่ระดับ 1,657.69 จุด ลดลง 1.79 จุด หรือ -0.11% มูลค่าซื้อขาย 1,645.68 ล้านบาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,650-1,670 จุด บรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน รายงานการประชุม FOMC ที่เปิดเผยเมื่อคืนที่ผ่านมา ใกล้เคียงกับที่ตลาดประเมินในปัจจุบันคือเงินเฟ้อแม้จะชะลอตัวลงต่อเนื่องในเดือนก่อนๆ แต่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายมาก ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังมองว่าจำเป็นต้องขยับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง และมีกรรมการบางท่านสนับสนุนให้ปรับขึ้น 0.5% ในการประชุมรอบก่อน ขณะที่ตลาด Price-in ระดับ Peak Rate ของ เฟด ที่ 5.25-5.50% ช่วงกลางปีไปมากแล้ว แต่ยัง Price-in เร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในเดือน มี.ค. เพียง 25% ซึ่งยังถือเป็นความเสี่ยงและจำกัด Upside ของสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น

ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสยังอยู่ที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/65 ซึ่งโดยรวมกลุ่ม Consumption และ Reopening Play เริ่มออกมาตามคาดและดีกว่าคาดมากขึ้นจากกลุ่ม Global Play ที่ประกาศออกมาในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งคาดว่าจะช่วยคลายความกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวในปี 2566 ได้บ้าง จึงมองตลาดอยู่ในช่วงพักฐานรับทั้งปัจจัยภายนอกเรื่องเงินเฟ้อและดอกเบี้ย รวมถึงภาพรวมกำไรไตรมาส 4/65 ที่อ่อนกว่าคาด

อย่างไรก็ตามยังมองจังหวะพักตัวของดัชนีเป็นโอกาสในการสะสมระยะกลาง-ยาวจากเศรษฐกิจไทยที่ทยอยเร่งตัวขึ้น แนวรับหลักที่ทำให้ SET Index ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นในภาพระยะกลางอยู่ที่ 1,630+- จุด ส่วนระยะยาวหากมีจังหวะทดสอบแนวจิตวิทยาที่ 1,600 จุดหรือต่ำกว่าจะเป็นจุดในการเข้าลงทุนที่น่าสนใจ

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
CPALL อยู่ที่ 65.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ -1.88% มูลค่าซื้อขาย 281.91 ล้านบาท
BANPU อยู่ที่ 11.10 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ -0.89% มูลค่าซื้อขาย 202.50 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.37% มูลค่าซื้อขาย 54.25 ล้านบาท
COM7 อยู่ที่ 32.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +4.92% มูลค่าซื้อขาย 49.17 ล้านบาท
AAI อยู่ที่ 7.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +3.52% มูลค่าซื้อขาย 48.89 ล้านบาท