SNNP กำไรปี 65 พุ่ง 21% จ่ายปันผลอีก 0.23 บ./หุ้น ขึ้น XD 2 พ.ค.

HoonSmart.com>>”ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง”(SNNP) โชว์ผลดำเนินงานปี 65 กำไรพุ่ง 21% แตะระดับ 512 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ขณะที่รายได้รวมโตทะลุเป้า อยู่ที่ 5,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากแผนการตลาดและการขายสินค้ารวมถึงการออกสินค้าใหม่ ๆ บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลอีก 0.23 บาท/หุ้น ขึ้น XD 2 พ.ค. 66 รวมทั้งปี 65 จ่ายปันผล 0.41 บาท/หุ้น ฟากผู้บริหารมั่นใจรายได้ปี 66 โตอย่างต่อเนื่อง จากยอดขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ

บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) แจ้งว่า กำไรสุทธิสำหรับปี 2565 ของบริษัทเท่ากับ 511.8 ล้านบาท และกำไรปี 2564 เท่ากับ 421.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.4% จากปี 2564 โดยกำไรต่อหุ้นปี 2565 เท่ากับ 0.54 บาท และในปี 2564 เท่ากับ 0.53 บาท

บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 4 ปี 2565 เท่ากับ 152.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.1 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2564 และ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2565 โดยมีกำไรสุทธิฯ สำหรับปี 2565 เท่ากับ 515.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากปี 2564 จากรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และการปรับโฉมใหม่ของสินค้าของบริษัท ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีส่งผลให้รายได้เติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับการบริหารต้นทุน และค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ

รายได้จากการขายสินค้าในปี 2565 รวมเท่ากับ 5,556.1 ล้านบาท และในปี 2564 เท่ากับ 4,357.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,198.2 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 27.5 มีสาเหตุหลักจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ตลอดทั้งัปี 2565 ที่เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติการปรับตัวดีขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศและต่างประเทศ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี รวมถึงรายได้จากการขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจากการปรับตัวดีขึ้นของอุปสงค์ต่างประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายดีขึ้นเป็นลำดับ จนหลายประเทศประกาศให้เป็นโรคท้องถิ่น

SNNP โชว์ผลดำเนินงานปี 65 มาตามนัด กำไรพุ่ง 21% แตะระดับ 512 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ขณะที่รายได้รวมโตทะลุเป้า อยู่ที่ 5,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากแผนการตลาดและการขายสินค้ารวมถึงการออกสินค้าใหม่ ๆ บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดอีกในอัตรา 0.23 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 2 พ.ค. 66 รวมทั้งปีจ่ายปันผล 0.41 บาท/หุ้น ฟากผู้บริหาร “วิโรจน์ วชิรเดชกุล” มั่นใจรายได้ปี 66 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากยอดขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ

นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2565 มีกำไรสุทธิจากธุรกิจหลัก ซึ่งไม่รวมกำไรพิเศษ อยู่ที่ 541 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 197 ล้านบาท หรือ 57% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนโดยมีกำไรสุทธิ 344 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 5,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,283 ล้านบาท หรือ 30% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 4,273 ล้านบาท

ในขณะที่ผลดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.65 มีกำไรสุทธิ 149 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33 ล้านบาท หรือ 28% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,634 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 412 ล้านบาท หรือ 34% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,222 ล้านบาท

ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากแผนการตลาดของบริษัทฯที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และยอดขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง และมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนในปีที่ผ่านมา กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างไหลกลับ สร้างความคึกคักให้กับตลาดเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.23 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พ.ค. 2566 กำหนดจ่ายวันที่ 19 พ.ค. 2566 ทั้งนี้ บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ 0.18 บาท รวมทั้งปีเท่ากับ 0.41 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565

รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP กล่าวอีกว่า แนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ มาจากแผนธุรกิจตั้งแต่การสร้างการรับรู้ของตราสินค้าอย่างต่อเนื่อง การกระตุ้นการบริโภคของสินค้า รวมถึงแผนการออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมาย สำหรับปี 2566 นอกจากการเติบโตของแผนธุรกิจแล้ว ยังมีแนวโน้มเติบโตจากส่วนของนักท่องเทียวที่เข้ามาซื้อสินค้าของบริษัท โดยภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวหลัก โดยเฉพาะจากจีน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ โดยในปี 2566 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ อย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้