ราคาน้ำมันดิบเพิ่มเล็กน้อยจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดิอาระเบีย ปริมาณการผลิตของอิหร่านลดลง สงครามการค้ากดดันความต้องการใช้ไม่ให้เพิ่มขึ้นมากนัก
บริษัทไทยออยล์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและซาอุดิอาระเบีย ในกรณีการหายตัวไปของนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดิอาระเบีย หลังเข้าไปติดต่อธุระที่สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูล เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้นำสหรัฐฯประกาศว่า สหรัฐฯ จะใช้มาตรการลงโทษสถานหนักหากผลการสืบสวนพบว่าซาอุดิอาระเบียมีส่วนเกี่ยวข้อง ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียพร้อมตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยมาตรการที่รุนแรงกว่า
ส่วนปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากอิหร่านยังคงปรับลดลงแตะระดับ 3.45 ล้านบาร์เรลต่อวันและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐฯ ต้องการปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่านให้หมดไป ขณะที่ประเทศคู่ค้านอกเหนือจากประเทศหลัก เช่น จีน อินเดีย และตะวันออกกลางได้ปรับลดปริมาณการนำเข้าจากอิหร่านอย่างต่อเนื่อง
ความต้องการน้ำมันที่ลดลงได้กดดันราคาน้ำมันไม่ให้ปรับขึ้นมากนัก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานพลังงานสากล (IEA) รายงานว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มลดลง อันเนื่องมาจากผลกระทบของความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับรายงานจากกลุ่มประเทศส่งออกน้ำมัน (OPEC) ที่ได้ลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีนี้และปีหน้าลง
ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์หน้า บริษัทไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 69-74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 78-83 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล