HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 2.87 จุด บรรยากาศลงทุนไม่สดใส ถูกกดดันจากเงินเฟ้อปรับลงช้ากว่าที่ประเมิน หวั่นการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ส่งบอนด์ยีลด์ทรงตัวสูงสะท้อนภาพดอกเบี้ยสูงขึ้นไปแล้ว ส่วนในประเทศผลประกอบการไตรมาส 4/65 เช่นเดียวกับ GDP ไตรมาส 4/65 ที่ต่ำกว่าคาดเช่นกัน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 20 ก.พ..2566 ณ เวลา 9.59 น. อยู่ที่ระดับ 1,654.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.87 จุด หรือ -0.17% มูลค่าซื้อขาย 1,712.20 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index แกว่ง Sideways Down ในกรอบ 1,642-1,658 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่สดใสนัก ปัจจัยภายนอกยังคงถูกกดดันจากเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ยังปรับตัวลงช้ากว่าที่ประเมิน ทำให้ตลาดเพิ่มคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นในอัตราเร่งจาก 0.25% เป็น 0.5% ในการประชุมเดือน มี.ค. ส่วน Peak Rate มองที่ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือน มิ.ย. ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร ( Bond Yield) ยังทรงตัวในระดับสูงและปรับตัวขึ้น 40-50 bps สะท้อนภาพดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไปแล้ว
ส่วนปัจจัยในประเทศยังมีแรงกดดันจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/65 โดยรวมที่ต่ำกว่าคาด เช่นเดียวกับตัวเลข GDP ไตรมาส 4/65 ที่ต่ำกว่าคาดเช่นกัน สัปดาห์นี้จับตา FED Minute เงินเฟ้อ PCE เดือน ม.ค. ของสหรัฐฯ รวมถึงผลประกอบการกลุ่ม Consumption และ Reopening Play ที่จะออกมาหนาแน่นและคาดหวังเห็นการฟื้นตัว หากออกมาไม่ต่ำกว่าคาดเราเชื่อว่าจะช่วยทำให้แรงขายชะลอลงและเพิ่มความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวในไตรมาส 1/66-2566 ได้ ยังมองจังหวะพักตัวของดัชนียังเป็นโอกาสในการสะสมระยะกลาง-ยาวจากเศรษฐกิจไทยที่ทยอยเร่งตัว แนวรับหลักที่ทำให้ SET Index ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นในภาพระยะกลางอยู่ที่ 1,630+- จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
JMART อยู่ที่ 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +5.50% มูลค่าซื้อขาย 106.04 ล้านบาท
DELTA อยู่ที่ 962.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท หรือ +1.05% มูลค่าซื้อขาย 99.25 ล้านบาท
CBG อยู่ที่ 100.50 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ -4.29% มูลค่าซื้อขาย 92.66 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 73.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.69% มูลค่าซื้อขาย 73.41 ล้านบาท
JMT อยู่ที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +1.09% มูลค่าซื้อขาย 72.70 ล้านบาท