ADVANC จ่อขายหุ้นกู้ 1 แสนล. ทุ่มลงทุนจบดีล 3BB กำไรพุ่ง

HoonSmart.com>>ปีทองของกลุ่มอินทัชฯ ลูกโหมลงทุน-กำไรไปได้สวย “แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) “ทุ่มงบปีนี้  2.7-3 หมื่นล้านบาท ไม่รวมจบดีลซื้อ TTTBB ไตรมาส 1 เดินหน้า Data Center-Virtual Bank เตรียมวงเงินออกหุ้นกู้ 1 แสนล้านบาท ยอมรับศึกษาตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน บล.คิงส์ฟอร์ดแนะนำซื้อสะสม ADVANC เป้า 240 บาท คาดกำไรพุ่ง 48% เป็น 35,997 ล้านบาท ไทยคม (THCOM) จ่อลงทุนดาวเทียม  15,203 ล้าน 

นางสาวสมฤทัย ตัณฑกิตติ หัวหน้าแผนกงานนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC)  เปิดเผยในงาน Opportunity Day : บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน ว่า ในปี 2566 บริษัทตั้งงบลงทุนจำนวน  27,000-30,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกับการเข้าลงทุนในส่วนของดีลซื้อ TTTBB  คาดว่าอาจจะแล้วเสร็จภายใน ไตรมาสแรก ส่วนรายได้ตั้งเป้าเติบโต 3-5% และ EBITDA เติบโตระดับกลาง (Mid-single digit growth) บริษัทจะเน้นการสร้างรายได้ที่มีคุณภาพ เช่น กลุ่มมือถือที่จะเน้น 5G และการถอนโปรฯ ที่ไม่สร้างกำไรให้กับบริษัทออก ควบคู่กับกลยุทธ์การออกแพ็คเกจร่วมกัน (FMC) ระหว่างมือถือและบรอดแบนด์

สำหรับธุรกิจ Data Center บริษัทคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 18 เดือน หลังจากได้เปิดหน้าดินที่ บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2566 ทั้งนี้ บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 25% GULF ถือจำนวน 45% สิงเทลถือ 30% ส่วนธุรกิจ Virtual Bank บริษัทมองว่าดิจิทัลไฟแนนซ์เป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องวิเคราะห์ว่าจะมีโอกาสเติบโตมากเพียงใด ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเปิดรับสมัครในไตรมาสแรกปีนี้

การควบรวมของ TURE และ DTAC จะทำให้การแข่งขันทางธุรกิจเปลี่ยนไป คาดว่าไม่มีผลกระทบต่อบริษัท ที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน และฐานลูกค้า มั่นใจว่าจะสามารถขยาย และเติบโตในธุรกิจอื่นๆ ที่จะเข้ามาร่วมมือกับบริษัท ส่วนด้านลูกค้าก็ยังมีการเติบโต เชื่อว่าการส่งมอบประกอบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า เป็นพื้นฐานหลักต่อการเติบโต ทั้งในด้านของดิจิทัล และพันธมิตร

ด้านคณะกรรมการบริษัทมีมติกำหนดวงเงินออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1 แสนล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจระยะยาว โดยเบื้องต้นมีความต้องการใช้ในดีลซื้อ TTTBB ที่มีแหล่งเงินอื่น นอกจากเงินกู้สถาบันการเงิน

นางสาวสมฤทัยกล่าวกรณีที่มีกระแสว่าบริษัทจะนำเสาโทรคมนาคมเป็นสินทรัพย์จัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ว่า บริษัทได้มีการศึกษามาพอสมควร ซึ่งเป็นเทรนด์ของทุกบริษัท โดยเฉพาะสิงเทลซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ก็สนใจเรื่องนี้เช่นกัน  แต่ต้องวิเคราะห์ข้อดีแลข้อเสียจากการระดมทุนด้วยกองทุนโครงสร้างพื้นฐานก่อน แต่เวลานี้บริษัทจะโฟกัสเรื่องการซื้อ TTTBB ก่อน

บล.คิงส์ฟอร์ด แนะนำซื้อสะสม ADVANC ราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 240 บาท คาดแนวโน้มผลงานของปี 2566 มีกำไรสุทธิ 35,997.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.16% ได้อานิสงส์ เศรษฐกิจเติบโต การแข่งขันรุนแรงที่ลดลง การซื้อ TTTBB ที่เติบโตต่อเนื่อง และรับเงินปันผลจากกอง JASIF ที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลราว10.33%

บล.เอเซียพลัสแนะนำซื้อ INTUCH เพิ่มราคาเป้าหมายจาก 86.75 บาทเป็น 88 บาท เนื่องจากกำไรงวดไตรมาสที่ 4/2565 ที่ 2,900 ล้านบาทออกมาดีเกินคาด เพราะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจมือถือ (ADVANC) สูงขึ้น ตามฐานรายได้ที่ฟื้นตัวและคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น จึงสามารถชดเชยผลประกอบการของธุรกิจดาวเทียม (THCOM) และธุรกิจของบริษัทเองที่ยังขาดทุนได้

“เราปรับประมาณการกำไรปี 2566 – 2567 ของ INTUCH เพิ่ม ตามการปรับปรุงกำไรของ ADVANC และมีเงินปันผลที่จูงใจด้วยอัตรา 2.1% สำหรับครึ่งหลังของปี 2565  (XD 23 ก.พ.2566) และ 3.9% สำหรับปี 2566 (ไม่รวมปันผลพิเศษ 1.8% ที่จ่ายเมื่อ ม.ค. 2566)”บล.เอเซียพลัสระบุ

คณะกรรมการบริษัท ไทยคม (THCOM) มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อย ลงทุนในดาวเทียมชุดข่ายงานดาวเทียมวงโคจร 119.5 องศาตะวันออก โดยมีกรอบวงเงินการลงทุนสูงสุดไม่เกิน 15,203 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการให้ทันก่อนที่ดาวเทียมไทยคม 4 จะหมดอายุลง เพื่อให้บริษัทสามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง  ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นการรักษาฐานลูกค้าเดิมที่อยู่ภายใต้ดาวเทียมวงโคจร 119.5 องศาตะวันออกในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนและนำมา ซึ่งการสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว ทั้งนี้การลงทุนจะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินประมาณ 65.85 %ของมูลค่าการลงทุนโดยรวม

ปัจจุบันไทยคมมีเงินสดและรายการเทียบเท่าทั้งสิ้น 5,848 ล้านบาท อีกทั้งยังมีวงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ยังไม่ได้ใช้งานรวมประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการลงทุนโครงการดาวเทียม

เมื่อวันที่ 13 ก.พ.2566 ราคาหุ้น ADVANC ปิดไฮที่ 210 บาท บวก 4 บาทหรือ 1.94% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 2,317 ล้านบาท บริษัท ไทยคม ปิดที่ 17.20 บาทบวก 0.90 บาทหรือ+5.52% และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ปิดที่ 75.25 บาทบวก 0.75 บาทหรือ +1.01% สวนตลาดโดยรวม ดัชนีปิดที่ 1,664.89 จุด เพิ่มขึ้น 0.32 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 52,861 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นต่อ -1,123.67 ล้านบาท และขายตราสารหนี้ 2,044 ล้านบาท ทำให้ค่าเงินบาทปิดที่ 33.87 อ่อนค่าตามภูมิภาค รอลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐ หากออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด ก็มีโอกาสมากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้น