GGC เคาะจ่ายปันผล 0.25 บาท XD 23 ก.พ.นี้

HoonSmart.com>> “โกลบอลกรีนเคมิคอล” โชว์ปี 65 กำไร 953 ล้านบาท ทะยาน 189% เหตุปี 64 บันทึกค่าชดเชยความเสียหายคดีความ 444 ล้านบาท ด้านรายได้รวม 2.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 20% บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลดำเนินงานครึ่งปีหลัง 65 อัตรา 0.25 บาท ขึ้น XD 23 ก.พ.นี้ จ่ายเงิน 20 เม.ย.66 รวมทั้งปี 65 ปันผล 0.50 บาท

บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) เปิดเผยผลการดำเนนงานงวดปี 2565 มีกำไรสุทธิ 953.30 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.93 บาท เพิ่มขึ้น 189% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 330.22 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.32 บาท

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 25,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 4,161 ล้านบาท หรือ 20% และมี Adjusted EBITDA จำนวน 2,125 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 90% ทั้งนี้ บริษัทฯ รับรู้ผลกระทบจาก Stock Loss & NRV จำนวน 393 ล้านบาท ส่งผลให้ในปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิก่อนรวมผลกระทบจากรายการพิเศษจำนวน 849 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 75 ล้านบาท หรือ 10%

ทั้งนี้ ในปี 2564 บริษัทฯ ได้บันทึกรายการพิเศษซึ่งเป็นรายการตั้งสำรองค่าชดเชยความเสียหายคดีความจำนวน 444 ล้านบาท ทำให้มีกำไรสุทธิหลังรวมผลกระทบรายการดังกล่าวจำนวน 330 ล้านบาท (0.32 บาท/หุ้น) ขณะที่ในปี 2565 บริษัทฯ บันทึกรายการพิเศษจำนวน 104 ล้านบาท จากการตั้งสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้จากการปรับโครงสร้างในกลุ่มบริษัทฯ ที่บริษัทฯ ได้มีการรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ไทยแฟตตี้แอลกฮอลส์ จำกัด (TFA) ซึ่งมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 เป็นต้นมา ทำให้ในปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิหลังรวมผลกระทบรายการดังกล่าว เพิ่มขึ้น 189%

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์จำนวน 16,370 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 1,062 ล้านบาท หรือ 7% โดยมีปัจจัยหลักมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาขายเมทิลเอสเทอร์ตามการปรับขึ้นของราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศที่ปรับตัวตามราคาตลาดต่างประเทศ คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 13% จากปริมาณการส่งออกของน้ำมันปาล์มดิบของประเทศไทยที่สูงขึ้น ตามสถานการณ์ตลาด

ในขณะที่ปริมาณการขายเมทิลเอสเทอร์ลดลง 9% จากนโยบายของภาครัฐที่มีการปรับลดอัตราการผสมน้ำมันไบโอดีเซลลงเหลือเพียง B5 ชนิดเดียว ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2565 และปรับเพิ่มเป็น B7 เพียงเกรดเดียว ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 เพื่อลดภาระค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นจากผลกระทบของวิกฤตราคาพลังงานที่เกิดขึ้นทั่วโลกให้กับประชาชนนั้น ยังคงกดดันให้ภาพรวมการใช้เมทิลเอสเทอร์ในตลาดลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์พลอยได้อย่างกลีเซอรีนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาขายและปริมาณขายของผลิตภัณฑ์กลีเซอรีนบริสุทธิ์ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนความคืบหน้าปัญหาวัตถุดิบคงคลังของบริษัทฯ ตั้งแต่ปี 2561 นั้น เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2566 ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีสิทธิยึดหน่วงเมทิลเอสเทอร์นของบริษัทฯ และพิพากษาแก้ในเรื่องค่าเสียหายเป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าเสียหายให้แก่บริษัทฯ จำนวน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย จนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จ ทั้งนี้คดียังไม่ถึงที่สุด โดยโจทก์และหรือจำเลยที่ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาสามารถใช้สิทธิยื่นขออนุญาตฎีกาต่อศาลฎีกาได้

คณะกรรมการบริษัทฯ ประชุมเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2566 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2565 สำหรับผลการดำเนินงานรวมของกลุ่มบริษัทในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท ทั้งนี้ บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสําหรับงวด 6 เดือนแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท จึงยังต้องจ่ายที่เหลือในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 24 ก.พ.2566 ขึ้น XD ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 23 ก.พ.2566 และจ่ายเงิน 20 เม.ย.2566