เงินไหลออก LTF ม.ค.กว่า 6.1 พันลบ. น้อยกว่าปีก่อน-กองเทคฯ ฟื้นกำไรสูงสุด 13.3%

HoonSmart.com>> “มอร์นิ่งสตาร์” เผยภาพรวมกองทุนเดือนม.ค.66 มูลค่าเพิ่มขึ้น 1.3% ด้านกองทุน LTF เงินไหลออกสุทธิ 6.1 พันล้านบาท น้อยกว่าปีก่อนไหลออก 8.4 พันล้านบาท ด้านกองทุนมันนี่ มาร์เก็ต แชมป์เงินไหลออกสูงสุด 1.6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนโยกหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ด้าน “กองทุนตราสารหนี้” ฮอตเงินไหลเข้าสูงสุด 3.6 หมื่นล้านบาท ด้านผลตอบแทนกองทุนส่วนใหญ่เป็นบวก กลุ่มเทคฯ ทั่วโลกสูงสุด 13.3% รองลงมากองทุนหุ้นจีน +8.5%

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีเงินไหลออกสุทธิกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) รวม 6.1 พันล้านบาท ต่ำกว่าเดือนม.ค.ปี 2565 ที่ 8.4 พันล้านบาท และจากเม็ดเงินกองทุน LTF นี้ ส่งผลให้กองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ (Equity Large-Cap) มีเงินไหลออก 8.55 พันล้านบาท มากเป็นอันดับ 2 ในเดือนที่ผ่านมา รองจากกองทุนตลาดเงิน (Money Market) ไหลออก 16,537 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 2566 นี้เงินครบกำหนดไถ่ถอนตามเงื่อนไข 7 ปีปฏิทินจะเป็นเงินลงทุนจากปี 2560 โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีดังกล่าวมีเงินไหลเข้ากองทุน LTF รวมราว 3.8 หมื่นล้านบาท

สำหรับภาพรวมกองทุนไทยเดือนม.ค.2566 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.9 ล้านล้านบาท (ไม่รวมกองทุนปิด ETF, REIT, Infra) เพิ่มขึ้นจากเดือนธ.ค.2565 ราว 1.3% กลุ่มกองทุนตราสารทุนมีมูลค่าทรัพย์สิน 1.44 ล้านล้านบาท และกองทุนตราสารหนี้อยู่ที่ 1.40 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% และ 2.8% ตามลำดับ

กลุ่มกองทุนตราสารหนี้มีเงินไหลเข้าสูงสุดรวม 3.6 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเปิดกองทุนใหม่ประเภท term fund นอกจากนี้ยังมีเงินไหลเข้ากองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศเช่นกลุ่ม Global Bond ที่มีเงินไหลเข้าสุทธิ 5.1 พันล้านบาท หลังจากมีเงินไหลออกสุทธิทั้งปีที่แล้ว 2.2 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ฝั่งเงินไหลออกสูงสุดยังคงเป็นกลุ่ม Money market ด้วยมูลค่าราว 1.7 หมื่นล้านบาท สะท้อนการกลับเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าทั้งตราสารหนี้จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และตราสารทุนที่ในเดือนม.ค.โดยรวมเป็นบวก

ด้านผลตอบแทนเฉลี่ยจากการลงทุนโดยรวมเป็นบวก จากผลตอบแทนหุ้นทั่วโลกที่ฟื้นตัวในเดือนม.ค.ทำให้ Morningstar Global Market Index อยู่ที่ +7.1% เทียบกับทั้งปี 2565 ที่ -17.6% ส่งผลให้กองทุนส่วนใหญ่มีผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา นำโดยกลุ่ม Global Technology ที่ +13.3% ตามมาด้วยกองทุนหุ้นจีน +8.5%

ในด้านผลตอบแทนติดลบนั้นมีเพียง 3 กลุ่มคือ กลุ่มหุ้นอินเดีย -2.3% กลุ่มกองทุนน้ำมัน (Commodities Energy) -2.2% และหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large-Cap) -0.7% โดย SET TR รอบเดือนม.ค.อยู่ที่ +0.2%