HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,685.17 จุด ลดลง 3.19 จุด แกว่งแคบ ขณะที่ตลาดเอเชียเจอแรงขายทำกำไรจากความขัดแย้งจีน-สหรัฐ อีกทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาดีมาก กังวลการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และวิตก Fund Flow ไหลกลับฝั่งสหรัฐ-ยุโรปหากเศรษฐกิจไม่ถดถอย แนวโน้มภาคบ่ายแกว่งตัวในกรอบ 1,680-1,690 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 6 ก.พ.2566 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,685.17 จุด ลดลง 3.19 จุด หรือ -0.19% มูลค่าการซื้อขาย 28,088 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,687.78 จุด และต่ำสุด 1,680.22 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้แกว่งแคบ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เผชิญกับแรงขายทำกำไรจากความขัดแย้งเริ่มกลับมารอบใหม่ระหว่างจีน และสหรัฐ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาดีมาก สร้างความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งถ้าเศรษฐกิจสหรัฐ และยุโรปไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย หรืออาจชะลอการถดถอย ก็จะทำให้ Fund Flow ที่ไหลเข้าอาเซียนเมื่อปีที่แล้ว (2565) อาจจะไหลกลับไปฝั่งยุโรป และสหรัฐได้
ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อไทยที่ออกมาถือว่าเป็นไปตามคาด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อยังสูงอยู่ ส่งผลให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังคงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ขยายตัว 5.02% จากตลาดคาด 5.1-5.2% นอกจากนี้ ช่วงนี้เป็นช่วงประกาศผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งก็ออกมาไม่ค่อยดี เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64 ที่ผลดำเนินงานจะออกมาดีกว่าไตรมาส 4/65 อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดคงจะแกว่งตัวในกรอบ 1,680-1,690 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA ปิดที่ 948.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -0.21% มูลค่าซื้อขาย 1,598.97 ล้านบาท
KCE ปิดที่ 57.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -1.72% มูลค่าซื้อขาย 943.49 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 32.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.76% มูลค่าซื้อขาย 784.24 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.74% มูลค่าซื้อขาย 748.97 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 164.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -0.90% มูลค่าซื้อขาย 739.61 ล้านบาท