“บล.คิงส์ฟอร์ด” แนะ PLANB-TACC

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาด SET ทรงตัว แนวต้าน 1,680 จุด ระหว่างรอผลประชุมเฟดค่ำนี้ แนะทยอยซื้อ PLANB, VGI, TKS ปัจจัยหนุนจากเลือกตั้ง BCH, CHG คาดกำไร Q4/65 ฟื้นตัว QoQ และ ICHI, SAPPE, CBG คาดยอดขายในประเทศ ,ต่างประเทศฟื้นตัว พร้อมคัดหุ้นเด่นชู PLANB, TACC

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,665 – 1,670 จุด แนวต้าน 1,680 จุด ระหว่างรอผลการประชุมเฟดค่ำวันนี้ แนะนำทยอยซื้อ PLANB, VGI, TKS ปัจจัยหนุนจากเลือกตั้ง BCH, CHG คาดกำไร Q4/65 ฟื้นตัว QoQ และ ICHI, SAPPE, CBG คาดยอดขายในประเทศ ,ต่างประเทศฟื้นตัว

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น หลังรายงานดัชนีต้นทุนการจ้างงาน Q4/65 ชะลอตัว ซึ่งเพิ่มน้ำหนักให้เฟดชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย โดย Fed Fund Rate Futures คาดเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% ในการประชุม 1 ก.พ., 22 มี.ค. และคาด Terminal Rate ดอกเบี้ยสหรัฐที่ 4.75 – 5.00% โดยนักลงทุนรอถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ว่าจะส่งสัญญาณผ่อนคลายขึ้นหรือไม่ หลัง Fed Dot Plot คาดดอกเบี้ยสูงสุดปีนี้ที่ 5.1% และไม่มีการลดดอกเบี้ยในปีนี้

ขณะที่วันศุกร์ยังต้องติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ม.ค.

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ PLANB (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.30 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 มีปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินโฆษณาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อานิสงส์จาก High Season คนออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านและการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว

นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จาก Synergy ป้ายของ AQUA และดำเนินการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิด Economies of scale โดยจะมุ่งเน้นการเพิ่ม U-Rate และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ป้ายโฆษณาที่มีอยู่ ทั้งปี 65 ผู้บริหารคาดรายได้รวมมากกว่า 5.8 พันล้านบาท บน Media Capacity 8.6 พันล้านบาท โดยมี U-Rate เฉลี่ย 60% ส่วนปี 66 แนวโน้มเติมโตต่อตาม GDP และได้ปัจจัยหนุนจากการเลือกตั้ง

หุ้น TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 9.45 บาท) ประเมินแนวโน้มการดำเนินงานในช่วง 4Q65 ยังสดใส YoY ได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายม.ควบคุมต่างๆในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดว่าจะส่งผลให้ยอดขาย B2B ในส่วนของร้าน 7-11(All Cafe) ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ TACC* เป็น supplier ให้กับสาขาที่มากขึ้นนอกจาก 7-11 ในไทย โดยมีการขยายยอดขายไปยังสาขาของ Lotus’s go fresh ผ่านทาง Jungle Cafe, ใน Food Court ของ Lotus Hypermarket รวมถึง 7-11 ในกัมพูชา ด้านผู้บริหารวางเป้ารายได้ปี66 จะโต +10%YoY พร้อมทั้ง ขยายไลน์การผลิตเพิ่มเติม 20-30% ที่โรงงานบ้านบึง ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี65 และ ปี66 จะเติบโตต่อเนื่องจากปี 64 ที่ 0.35 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.41 บาท/หุ้น, และ 0.45 บาท/หุ้น ตามลำดับ