HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 0.06 จุด ขาดปัจจัยหนุนใหม่-SCC กำไรออกมาแย่กว่าคาด กดดัน Sentiment ระยะสั้น-Fund flow ต่างชาติชะลอ
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 26 ม.ค.2566 ณ เวลา 10.01 น. อยู่ที่ระดับ 1,682.05 จุด ลดลง 0.06 จุด หรือ -0.00% มูลค่าซื้อขาย 4,955.29 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index แกว่งไซด์เวย์ต่อเนื่องในกรอบ 1,675-1,690 จุด ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ที่ชัดเจน โดยรอดูตัวเลข GDP ไตรมาส 4/65 ของสหรัฐฯคืนนี้ ตลาดคาด +2.6% q-q ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ +3.2% q-q และเงินเฟ้อ PCE เดือน ธ.ค. วันศุกร์ส่วนปัจจัยในประเทศนอกเหนือจากกนง.ที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็น 1.50% ตามคาดวานนี้ ยังคงต้องติดตามการประกาศกำไรบริษัทจดทะเบียนฝั่ง Real Sector อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด SCC ประกาศกำไรออกมาแย่กว่าคาด อาจเป็นปัจจัยกดดัน Sentiment ระยะสั้น
อย่างไรก็ตามภาพรวมไตรมาส 4/65 คาดว่าฟื้นตัวได้ q-q นำโดยกลุ่มพลังงาน รวมถึง Consumption และ Reopening Play ที่คาดเห็นการฟื้นตัวดีตามการเปิดประเทศ จึงมองจังหวะพักตัวเป็นโอกาสทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว ส่วนระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบไตรมาส 4/65 แข็งแรง
บล.กรุงศรี ประเมิน SET แกว่งตัว 1,675 – 1,690 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ประกอบกับแนวโน้ม Fund flow ต่างชาติชะลอตัวเพื่อติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นภาวะตลาดจะเป็นลักษณะเลือกเล่นหุ้นรายตัว เช่น กลุ่มงบไตรมาส 4/65 เติบโต และควรเข้าลงทุนแบบเก็งกำไรเป็นรอบ (ลงซื้อ/ขึ้นขาย) กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BANPU อยู่ที่ 12.30 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ -1.60% มูลค่าซื้อขาย 576.67 ล้านบาท
SCC อยู่ที่ 333.00 บาท ลดลง 12.00 บาท หรือ -3.48% มูลค่าซื้อขาย 418.13 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 145.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +1.39% มูลค่าซื้อขาย 346.67 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +0.97% มูลค่าซื้อขาย 287.53 ล้านบาท
BDMS อยู่ที่ 29.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 232.42 ล้านบาท