ดาวโจนส์ปิดบวก 104 จุด เกาะติดผลการดำเนินงาน

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดบวก 104.40 จุด สวนทาง Nasdaq ปิดลบ 30.14 จุด เกาะติดผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยรายงาน โดยช่วงแรกการซื้อขายรับผลกระทบจากการที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ประกาศระงับการซื้อขายหุ้นหลายสิบบริษัทจากปัญหาทางเทคนิค แต่สามารถกลับมาทำการซื้อขายได้หลังจากนั้นไม่นาน อย่างไรก็ตามมีผลกระทบต่อหุ้นมอร์แกน สแตนเลย์ หุ้นเอทีแอนด์ที หุ้นแมคโดนัลด์ หุ้นวอลมาร์ท ด้านราคาน้ำมัน WTI และ Brent ปรับตัวลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 24 ม.ค. 2566 ปิดที่ 33,733.96 จุด เพิ่มขึ้น 104.40 จุด หรือ 0.31% ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สาม นักลงทุนประเมินผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยรายงานเพื่อวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,016.95 จุด ลดลง 2.86 จุด, -0.07%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,334.27 จุด ลดลง 30.14 จุด, -0.27%

ในช่วงแรกการซื้อขายได้รับผลกระทบจากการที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ประกาศระงับการซื้อขายหุ้นหลายสิบบริษัท จากปัญหาทางเทคนิค แต่สามารถกลับมาทำการซื้อขายได้หลังจากนั้นไม่นาน อย่างไรก็ตามมีผลกระทบต่อหุ้นมอร์แกน สแตนเลย์ หุ้นเอทีแอนด์ที หุ้นแมคโดนัลด์ หุ้นวอลมาร์ท

ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่รายงานเมื่อวานเป็นแบบผสมปนเปกันไป หุ้น 3M ลดลง 6.2% หลังผลการดำเนินงานลดลงและประกาศลดพนักงาน 2,500 คน หุ้นเวอไรซอนบวก 2% จากยอดสมาชิกไตรมาสสี่แข็งแกร่งสุดในรอบ 7 ปี หุ้น GE บวก 1.7% หลังผลการดำเนินงานดีกว่าคาด

วิกเตอรเรีย เฟอร์นันเดซจาก Crossmark Global Investments กล่าวว่า ตลาดปรับตัวขึ้นสองวันเพราะคาดว่าธนาคารกลาง(เฟด)จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ในขณะที่เป็นสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยการรายงานผลการดำเนินงาน แต่เท่าที่เห็นผลการดำเนินงานก็มีทั้งดีและไม่ดี

อัตรากำไรสุทธิ(net profit margin)ของบริษัทใน S&P 500 ที่รายงานผลการดำเนินงานมาแล้วอยู่ที่ 11.4% ต่ำกว่า 11.9% ในไตรมาสก่อน และต่ำกว่า 12.4% ในงวดเดียวกันของปีก่อน

เอสแอนด์พี โกลบอลรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนมกราคมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 46.6 จาก 44.7 ในเดือนธันวาคม แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งสะท้อนการหดตัว

บิล อดัมส์ นักเศรษฐศาสตร์จาก Comerica Bank in Dallas กล่าวว่า GDP ที่แท้จริงในครึ่งแรกของปี 2023 จะติดลบ เศรษฐกิจอาจจะเริ่มถดถอย

นักลงทุนจับตาการรายงานประมาณการเบื้องต้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 ปี 2022 ในวันพฤหัสบดี รวมทั้งจับตาการประกาศเรื่องดอกเบี้ยของเฟดในต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งคาดว่าจะลดขนาดการขึ้นดอกเบี้ย

Fedwatch Tool จาก CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.1% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 มกราคมถึง 1 กุมภาพันธ์

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ นำโดยกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่ลดลง 1.3% แม้ข้อมูลเศรษฐกิจสะท้อนการกลับมาขยายตัว ขณะที่นักลงทุนยังคงวิเคราะห์ผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน

เอสแอนด์พี โกลบอลรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนมกราคมของยูโรโซนปรับตัวขึ้นมาที่ 50.2 จาก 49.3 ในเดือนมกราคม และดีกว่า 49.8 ที่นักวิเคราะห์คาด เป็นการกลับมาขยายตัวเล็กน้อย ทำให้คลายกังวลว่าเศรษฐกิจยุโรปจะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ แต่ก็วิตกว่าธนาคารกลางสหภาพยุโรปยังคงขึ้นดอกเบี้ย 0.50%ในการประชุมวันที่ 2 กุมภาพันธ์

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 453.38 จุด ลดลง 1.11 จุด, -0.24%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,757.36 จุด ลดลง 27.31 จุด, -0.35%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,050.48 จุด เพิ่มขึ้น 18.46 จุด, +0.26%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,093.11 จุด ลดลง 9.84 จุด, -0.07%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.49 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.8% ปิดที่ 80.13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 2.06 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.3% ปิดที่ 86.13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล