HoonSmart.com>> “บลจ.แอสเซท พลัส” เปิดตัวการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือกรูปแบบใหม่ “กองทุนคาร์บอนเครดิต” กองทุนแรกของไทย ประเดิมตลาดปี 66 ชูจุดเด่นโอกาสรับผลตอบแทนสูงในระยะยาว เปิดขายครั้งแรก 25 – 31 ม.ค.นี้ กางแผนปี 66 ตั้งเป้าขยาย AUM เติบโต 22% อยู่ที่ 8.8 หมื่นล้านบาทและแตะระดับ 1 แสนล้านบาทในปี 67 พร้อมรุก “ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” เสริมแกร่ง ตอบโจทย์ลูกค้าองค์กร เจาะกลุ่มลูกค้าเอกชน ชูนโยบายลงทุนมากถึง 14 นโยบาย
นายคมสัน ผลานุสนธิ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2566 บลจ. แอสเซท พลัส ยังคงมุ่งนำเสนอทางเลือกในการลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุน (Investment Solutions Excellence) ด้านธุรกิจกองทุนรวมจะมุ่งเน้นไปที่การจัดตั้งกองทุนใหม่ โดยเน้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นกระแสหรือเป็นที่นิยม รวมทั้งยังตอบโจทย์นักลงทุนได้แม้อยู่ในช่วงที่ตลาดมีสภาวะผันผวน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุน ผนวกกับการบริหารจัดการกองทุนโดยเฉพาะกองทุนรวม ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี อยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม
ล่าสุดบลจ.แอสเซท พลัส ได้จัดตั้งกองทุนสินทรัพย์ทางเลือกใหม่ ชื่อ กองทุนเปิด แอสเซทพลัส โกลบอลคาร์บอนเครดิต ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ASP-GCC-UI) ซึ่งเป็นกองทุนไทยกองทุนแรกที่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าคาร์บอนเครดิต ซึ่งมองเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างผลตอบแทนระยาว และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้นักลงทุนได้กระจายความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลง
กองทุน ASP-GCC-UI จะลงทุนผ่านกองทุน KraneShares Global Carbon Strategy ETF Feeder Fund (กองทุนหลัก) โดยที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลักเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80 % ของ NAV เรามองเห็นโอกาสการเติบโตของคาร์บอนเครดิตทั่วโลก จากการที่นานาประเทศ มีเป้าหมายในการให้ความสำคัญในการลดการปล่อยคาร์บอน ผสานกับ นโยบายภาครัฐและความกระตือรือร้นขององค์กร ที่ส่งผลให้ตลาดคาร์บอนเครดิตมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยความต้องการคาร์บอนเครดิตเพิ่มขึ้น 100 เท่าในปี 2050 (Source: McKinsey as of Jan 2022) จุดนี้จะเป็นโอกาสที่น่าเข้าไปลงทุนเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต
สำหรับกองทุน ASP-GCC-UI สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี IHS Markit Global Carbon Index จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่มีความเข้าใจในการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฟิวเจอร์สเป็นอย่างดี ทั้งนี้สัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน1 กองทุนนี้มีความเสี่ยงในระดับ 8+ กำหนดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่ 25 – 31 ม.ค. 2566 ทั้งนี้กองทุนอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 500,000 บาท
นายคมสัน กล่าวว่า ในปี 2565 บลจ.แอสเซท พลัส มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) อยู่ที่ 72,000 ล้านบาท เติบโต 11% โดยกองทุนรวมมีมูลค่าประมาณ 51,000 ล้านบาท มูลค่าลดลงไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรม ขณะที่กองทุนส่วนบุคคลมีมูลค่าสินทรัพย์เติบโต 200% อยู่ที่ 20,000 ล้านบาท หลังจากได้บริหารจัดการกองทุนของสำนักงานประกันสังคม ซึ่งปี 2566 ตั้งเป้า AUM เติบโต 22% จากปี 2565 หรืออยู่ที่ 88,250 ล้านบาท และแตะระดับ 100,000 ล้านบาท ในปี 2567 ขณะที่อุตสาหกรรมในปีนี้คาดเติบโต 2%
นอกจากธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคลแล้ว ในปีนี้บลจ.แอสเซท พลัส ได้เริ่มธุรกิจกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) เพื่อเสริมโอกาสการเติบโตของบริษัทให้แข็งแกร่ง รวมถึงตอบโจทย์ลูกค้าองค์กร ที่ต้องการทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น เจาะกลุ่มบริษัทและบริษัทมหาชน ซึ่งกลุ่มบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (ASP) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มีความสัมพันธ์และมีเครือข่ายจำนวนมาก โดยปัจจุบันได้ตั้งกองทุนมาสเตอร์ฟันด์ พร้อมนำเสนอนโยบายการลงทุนมากถึง 14 นโยบาย ซึ่งสามารถเลือกหรือปรับพอร์ตลงทุนได้ตามความต้องการ ตั้งเป้ามูลค่าสินทรัพย์สินสุทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปีแรกไว้ที่ 15,000 ล้านบาท และต้้งเป้า 5 ปีอยู่ที่ 8,500-10,000 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาด 0.6-0.7% จากมูลค่าตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท ซึ่งมองเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตได้ต่อเนื่องจากเงินสมาชิกและนายจ้างที่สะสมทุกปี
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำหรับปีนี้จะเน้นการดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึง (Client Services Excellence) โดยมีการเพิ่มช่องทางด้านออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงลูกค้า เน้นการให้ข้อมูลเป็นวงกว้าง ซึ่งถือว่าเป็นขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง จากปัจจุบันมีฐานลูกค้าประมาณ 122,000 ราย
“ปีนี้เราเริ่มต้นปีด้วยการเปิดตัวกองทุนคาร์บอนเครดิต จากแผนออกกองทุนใหม่ 3-4 ปีกองในปีนี้ และมีแผนออกกองทุนหุ้นบางประเทศที่เชื่อมั่นภาพระยะยาวและกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กผ่านกองทุนเปิด แอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้ (ASP-SME) ที่รอจังหวะตลาดเหมาะสม”นายคมสัน กล่าว
อ่านข่าว
“แอสเซท พลัส” มองเป้าหุ้นไทย 1,874 จุด ชู “จีน-ตลาดเกิดใหม่” เด่นปี 66