HoonSmart.com>> “แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป” เปิดกำไรสุทธิงวดปี 65 อยู่ที่ 1,579 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.1% จากงวดปีก่อน กวาดรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้เงินปันผลเพิ่มขึ้น เฉพาะงวดไตรมาส 4/65 กำไรสุทธิ 345 ล้านบาท พุ่งแรง 192% จากงวดปีก่อน
บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดปี 2565 กำไรสุทธิ 1,578.76 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.075 บาท เพิ่มขึ้น 14.1% จากกงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,383.72 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.066 บาท
สำหรับงวดไตรมาส 4/2565 มีกำไรสุทธิ 344.8 ล้านบาท ลดลง 29.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2565 ที่มีกำไรสุทธิ 489.0 ล้านบาท เป็นผลจากการลดลงของกำไร (ขาดทุน) สุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรม ผ่านกำไรหรือขาดทุน 143.2% และรายได้จากการดำเนินงานอื่น 77.9% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 192.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4/2564 ที่ขาดทุนสุทธิ 373.0 ล้านบาท เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้เงินปันผล
งวดปี 2565 มีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 13.9% และการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 17.5% โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นหลักๆ เป็นการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ที่มีกำไรสุทธิ 1,093.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.3% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน การเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อ ซึ่งส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยของธนาคารเพิ่มขึ้น ถึงแม้รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจะลดลงเนื่องจากสภาวะดลาดเงินและตลาดทุน
นอกจากนี้ LHFG ยังคงตั้งสำรองคำใช้จำยผลขาดทุนด้านเครดิดที่คาดว่จะเกิดขึ้นตามหลักความระมัดระวังเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อ และรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือลูกค้ำ โคยอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่ำค้านเครคิต (Coverage Ratio) อยู่ในระดับที่ดีขึ้นอยู่ที่ 220.9% และอัตราส่วนสินเชื่อที่มีการค้อยค่าด้านเครดิดต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ยังลดลงจาก 2.77% ณ สิ้นปี 2564 เหลือเพียง 2.09% ณ สิ้นปี 2565
นอกจากนี้ธนาคารได้พัฒนาการให้บริการ Trade Finance และ Cash Management ทำให้รายได้จากธุรกรรมดังกถ่าวเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า สินทรัพย์สุทธิ มีจำนวน 301.537.0 ถ้านบาท เติบโตจากสิ้นปี 2564 ร้อยละ 13:9 โดยหลักๆ เป็นการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่เติบโต 20.7% โดยสินเชื่อกลุ่มลูกค้าได้หวันเติบโต 63.8% จากสิ้นปี 2564 ซึ่งเป็นผลจากการสนับสนุนของ CTHC