ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอกย้ำผู้นำในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่โดดเด่น รับรางวัล”ตลาดหลักทรัพย์ยอดเยี่ยมกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำ” เป็นครั้งแรก และรางวัล “ตลาดหลักทรัพย์ยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืนกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ในอาเซียน” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากวารสารธุรกิจ การเงิน ชั้นนำของอังกฤษ
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้รับรางวัล ตลาดหลักทรัพย์ยอดเยี่ยมกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำ จากวารสาร Capital Finance International (CFI.co) ประเทศอังกฤษ แสดงถึงความโดดเด่นระดับสากลในการสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ รวมถึงการทำงานแบบพันธมิตรร่วมกับผู้ร่วมตลาดทุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ตลาดทุนไทย ให้สามารถตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ตลาดหลักทรัพย์มีการสร้างแพลตฟอร์มในลักษณะระบบเปิด เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับระบบอื่นได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ สร้างโอกาสทางธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมาตรฐานให้แก่อุตสาหกรรม อาทิ การชำระเงิน ระบบงานกลางสำหรับจัดจำหน่ายกองทุนรวม และการยืนยันตัวตน เพื่อการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงชูจุดขายการเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อสร้างตลาดทุนไทยให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เนื่องจากกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ท่องเที่ยวและบริการการแพทย์ และอาหาร เป็นจุดแข็งของประเทศและตลาดทุน นอกจากนี้ ยังมุ่งพัฒนาตลาดทุนไทยให้เป็นจุดเชื่อมโยงการลงทุนในระดับอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
สำหรับรางวัล ตลาดหลักทรัพย์ยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืนกลุ่มตลาดเกิดใหม่ในอาเซียน ที่ได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ตอกย้ำภารกิจสำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลอดเส้นทางการพัฒนาความยั่งยืนที่ได้ริเริ่มมาอย่างยาวนาน โดยมีจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปี 2557 เมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้าร่วมเป็นพันธมิตรของโครงการแนวร่วมการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติแห่งแรกในอาเซียน ด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างการเติบโตในทุกภาคส่วนของสังคม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมความยั่งยืนให้ภาคธุรกิจ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) รวม ถึงโครงการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาชุมชนและสังคม
กรรมการและผู้จัดการกล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งหวังให้ตลาดทุนไทยเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ผลลัพธ์ที่ได้เป็นรูปธรรมเกิดจากการวางแผนและดำเนินการตามแผนกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ ตลาดหลักทรัพย์ไทยได้รับการยอมรับในฐานะตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในเอเชีย ทั้งด้านปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน มูลค่าจากการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อขยายกิจการทั้งในและต่างประเทศ และจำนวนบริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ( DJSI)
นายภากรกล่าวว่า พัฒนาการที่เด่นชัดของการสร้างฐานผู้ลงทุนที่มีคุณภาพ เห็นได้จากจำนวนผู้ลงทุนในประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตลอดจนการสร้างสมดุลย์ระหว่างการพัฒนาระยะยาวกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการสร้างระบบนิเวศ ที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานที่เกิดจากความมุ่งมั่นของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อการเติบโตอย่างทั่วถึงในทุกภาคส่วน