HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,676.51 จุด ลดลง 10.94 จุด สวนตลาดภูมิภาค เผชิญแรงขายทำกำไรหุ้นบิ๊กแคป หวั่นต่างชาติชะลอการลงทุนหรือขายหุ้นไทยหลังบาทแข็งค่าเร็ว ส่งต้นทุนซื้อหุ้นของต่างชาติแพงขึ้น แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายเคลื่อนไหวในแดนลบ แนวรับ 1,680-1,650 แนวต้าน 1,700 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 13 ม.ค.2566 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,676.51 จุด ลดลง 10.94 จุด หรือ -0.65% มูลค่าการซื้อขาย 54,221.93 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,695.99 จุด และต่ำสุด 1,674.31 จุด
นายธีรศักดิ์ ธนวรากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรหุ้นขนาดใหญ่ (บิ๊กแคป) โดยมองว่า 2 วันที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิน้อยลง อาจเป็นผลจากเงินบาทแข็งค่าเร็ว ทำให้ต้นทุนการซื้อหุ้นของต่างชาติแพงขึ้น โดยหากมองตั้งแต่ต้นปี 66 เงินบาทแข็งค่าขึ้นเกือบ 5% ดังนั้นนักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการลงทุนหรือขายหุ้นไทยออกมาได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวก ตอบรับเงินเฟ้อของสหรัฐที่ออกมาลดลง ทำให้ตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งหลังจากนั้นก็จะคงอัตราดอกเบี้ย พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารในสัปดาห์หน้า และติดตามทิศทางการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดคงจะยังเคลื่อนไหวในแดนลบอยู่ โดยมีแนวรับ 1,680-1,650 จุด แนวต้าน 1,700 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA ปิดที่ 828.00 บาท ลดลง 44.00 บาท หรือ -5.05% มูลค่าซื้อขาย 2,554.65 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 73.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.68% มูลค่าซื้อขาย 1,995.11 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.74% มูลค่าซื้อขาย 1,865.82 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 154.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -0.96% มูลค่าซื้อขาย 1,773.63 ล้านบาท
DTAC ปิดที่ 47.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +2.16% มูลค่าซื้อขาย 1,591.61 ล้านบาท