ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 216 จุด หลังเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ชะลอตัว หวังเฟดชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย บอนด์ยีลด์อ่อนตัวลงแตะ 3.4% ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ส่วนใหญ่ปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 12 มกราคม 2566ปิดที่ 34,189.97 จุด เพิ่มขึ้น 216.96 จุด หรือ +0.64% หลังเงินเฟ้อเดือนธันวาคมชะลอตัว ทำให้มีความคาดหวังมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,983.17 จุด เพิ่มขึ้น 13.56 จุด, +0.34%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ ที่ 11,001.10 จุด เพิ่มขึ้น 69.43 จุด, +0.64%
ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานเดือนธันวาคมลดลง 0.1% จากเดือนพฤศจิกายน และเพิ่มขึ้น 6.5% จากปีก่อนสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด ส่วน ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานก็สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนพฤศจิกายน และเพิ่มขึ้น 5.7% จากปีก่อน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอ่อนตัวลงมาที่ 3.4% จาก 3.5% ในวันก่อนหน้า
ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดจะเป็นประเด็นที่มีน้ำหนักมากในการประชุมของเฟดที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมาเฟดให้ความชัดเจนว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยยังไม่สิ้นสุด
เมื่อวันพุธประธานเฟดสาขาบอสตัน ซูซาน คอลลินส์ ให้ความเห็นสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้ เช่นเดียวกับประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย แพทริก ฮาร์เกอร์ที่คิดว่าดอกเบี้ยจากนี้ไปน่าจะขึ้นแค่ 0.25%
นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า เงินเฟ้อล่าสุดไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเฟดจะมีการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยหรือไม่ โดยซีมา ชาห์ จาก Principal Asset Management ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ไม่เพียงตัวเลขสอดคล้องกับที่คาดการณ์แล้ว ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% ในการประชุมปลายเดือนมกราคมหรือไม่ และก็ไม่ชัดเจนว่าจะทำให้ในปลายปี 2023 เฟดจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่น การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วมีจำนวน 205,000 รายต่ำกว่า 215,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด
หุ้นดิสนีย์เพิ่มขึ้น 3.6% แม้มีรายงานข่าวว่า Nelson Peltz ซึ่งเป็น activist investor ยื่นวาระต่อผู้ถือหุ้นเพื่อเข้าเป็นกรรมการบริษัท
หุ้น KB Home ลดลง 2.8% หลังรายงานรายได้และกำไรต่ำกว่าคาด
หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์บวก 9.7% หลังปรับคาดการณ์ผลกำไรไตรมาสสี่เพิ่มขึ้น
นักลงทุนรอการรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสของธนาคารใหญ่ ทั้งเจพีมอร์แกน แบงก์ออฟอเมริกา ซิตี้กรุ๊ป เวลลส์ฟาร์โก ในวันศุกร์นี้
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก นำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีก ขณะที่เงินเฟ้อของสหรัฐเดือนธันวาคม ทำให้คลายความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยในขนาดใหญ่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
หุ้นค้าปลีกในอังกฤษพากันปรับตัวขึ้นหลังผลการดำเนินงานของบริษัทแสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายที่คึกคักของผู้บริโภคในช่วงคริสต์มาส โดยหุ้นเทสโก้บวก 0.9% หลังคงคาดการณ์ผลกำไรทั้งปี
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 450.22 จุด เพิ่มขึ้น 2.81 จุด, +0.63%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,794.04 จุด เพิ่มขึ้น 69.06 จุด, +0.89%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,975.68 จุด เพิ่มขึ้น 51.49 จุด, +0.74%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,058.30 จุด เพิ่มขึ้น 110.39 จุด, +0.74%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 78.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.36 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ 84.03ดอลลาร์ต่อบาร์เรล