HoonSmart.com>> บลจ.ประสานเสียง “หุ้นจีน” เด่น แนะ “ซื้อ” ลงทุน ชูตลาด A-shares คาดได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศ เปิดประเทศเร็วหนุนเศรษฐกิจปี 66 “บลจ.ไทยพาณิชย์” ยกสถิติ 20 ปีย้อนหลัง ช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนตรุษจีนแจกกำไร มองจีนกลับทิศนโยบายคุมโควิดเร็วกว่าคาด ผ่อนเกณฑ์คุมเข้มบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่หนุนตลาดเชิงบวก “MFC” ให้น้ำหนักลงทุนตลาดหุ้นจีนไตรมาส 1/66 เป็น “Slightly Overweight”
“HoonSmart” รวบรวบผลงาน “กองทุนหุ้นจีน” ในปี 2565 ที่ผ่านมาพบทั้ง 115 กองทุนที่ลงทุนในหุ้นจีนมีผลตอบแทนติดลบทั้งหมด ข้อมูลจากบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) กองทุนหุ้นจีนมีผลตอบแทนเฉลี่ยทั้งปีติดลบ 27.2% โดยกองทุนที่ติดลบน้อยสุดอยู่ที่ 11.43% และติดลบหนักสุดที่ 37.49% จากการปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีจากการล็อกดาวน์ในหลายเมือง การดำเนินนโยบาย COVID-ZERO ซึ่งกระทบการลงทุน การบริโภคและภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม “กองทุนหุ้นจีน” กลับมามีผลตอบแทนเป็นบวกได้ในไตรมาส 4/2565 เฉลี่ย 5.3% จากมาตรการปิดเมืองที่ค่อยๆ ผ่อนคลายมาอย่างต่อเนื่อง ช่วยกระตุ้นภาคการบริโภค รวมทั้งการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ แต่ราคาหุ้นจีนเพิ่งเริ่มฟื้นขึ้นมา จากปรับตัวลงหนักต่อเนื่อง ราคาจึงยังอยู่ระดับต่ำและฉุดผลตอบแทนกองทุนหุ้นจีนลงไปมาก เห็นได้จากผลตอบแทนกองทุนหุ้นจีนย้อนหลัง 3 ปี มีเพียง 3 กองทุนที่ผลตอบแทนเป็นบวก ได้แก่ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เกรธเธอร์ ไชน่า (UOBSGC) ของบลจ.ยูโอบี อยู่ที่ 8.43% ต่อปี อันดับสองกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index (TMBCHEQ) ของบลจ.อีสท์สปริง อยู่ที่ 2.52% และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) บลจ.บัวหลวง อยู่ที่ 2.25%
ขณะที่เปิดปี 2566 “ตลาดหุ้นจีน” ได้ปัจจัยหนุนต่อเนื่องหลังประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าคาด หนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อและมุมมองที่เป็นบวก “หุ้นจีน” จึงเป็น 1 ในเป้าหมายที่ผู้จัดการกองทุนพร้อมใจให้ซื้อ “ลงทุน”
เปิดสถิติ 20 ปี “หุ้นจีนเด่น รับตรุษจีน” ผลตอบแทนบวก
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ เปิดสถิติตั้งแต่ปี 2003-2022 (พ.ศ. 2546-2565) หากซื้อหุ้นจีน A-shares (ดัชนี CSI 300) ก่อนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ราว 1-2 สัปดาห์ จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 2.2%-2.8% ตามลำดับ ด้วยความน่าจะเป็นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก มากกว่า 70%
สำหรับตรุษจีนปีนี้ ช่วงปลายเดือน ม.ค. คาดว่า มีโอกาสสูงที่ทิศทางตลาดหุ้นจีนจะมีแนวโน้มเป็นบวกสอดคล้องกับสถิติในอดีต 20 ปี ด้วยปัจจัยสนับสนุน คือ การกลับทิศของนโยบายควบคุมโควิดจาก “Zero Covid Policy” เป็น “Live with Covid” เร็วกว่าคาด และสัญญาณผ่อนคลายเกณฑ์คุมเข้มกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
“มองเชิงบวกต่อการลงทุนตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะหุ้นจีน A-shares ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัว, ระดับมูลค่าไม่แพงและมีปัจจัยฤดูกาลสนับสนุน “
สำหรับกองทุนแนะนำ ได้แก่ SCBASHARES(A), SCBCHAA
ราคาหุ้นจีนมูลค่าไม่แพง P/E ต่ำ
บลจ.เอ็มเอฟซี มองลงทุนตลาดหุ้นจีนปี 2566 จะได้ปัจจัยหนุนจากการประกาศเปิดประเทศ มีผลวันที่ 8 ม.ค. 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเปิดประเทศในช่วงไตรมาส 2 ปี 2566 ทำให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีนไม่ต้องกักตัวอีกต่อไป อีกทั้ง จีนยังปรับลดระดับมาตรการจัดการเกี่ยวกับโควิด จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ Category A ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันขั้นสูงสุด สู่ระดับ Category B ที่ผ่อนคลายลงมากด้วย
MFC มองในช่วง 1 – 2 เดือนข้างหน้า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจีนและอัตราการเสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้น สร้างความกังวลให้กับตลาดในระยะสั้น แต่คาดว่ายังอยู่ในระดับที่รัฐบาลจีนสามารถควบคุมได้
ด้านเศรษฐกิจจีน ตลาดคาดการณ์ ปี 2565 การเติบโตของเศรษฐกิจจีน (GDP) จะเติบโตที่ประมาณ 3.0% YoY จากผลกระทบมาตรการ Zero – COVID และจะฟื้นตัวที่ระดับ 4.9% YoY ในปี 2566 โดยนักวิเคราะห์เริ่มมองกรณี Best Case คือการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มากกว่า 5%YoY จากการเปิดประเทศที่เร็วขึ้น ส่งผลบวกต่อตัวเลขเศรษฐกิจจีนในระยะข้างหน้า
นอกจากนี้ปัจจัยราคาหุ้นจีนยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน โดย ดัชนี CSI300 มี Forward P/E 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 11.36 เท่า บริเวณค่าเฉลี่ย 10 ปี ขณะที่ Forward P/E ดัชนี Hang Seng อยู่ที่ 9.53 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี (ข้อมูล ณ 28 ธ.ค.2565)
ด้านผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นจีน พบว่าปี 2565 ถูกปรับประมาณการลดลง แต่ปี 2566 เริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัว และคาดว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดย EPS Growth จาก Bloomberg Consensus ในปี 2566 ของดัชนี CSI 300 +26.02% (ข้อมูล ณ 4 ม.ค. 2566)
“ในช่วงไตรมาส 1 นี้ MFC ให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นจีนเป็น Slightly Overweight แนะนำลงทุนจากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวดีขึ้น หลังการเปิดประเทศที่เร็วกว่าคาด สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์จีนคาดมีแนวโน้มดีขึ้นจากการที่รัฐบาลเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นให้กับตลาด และราคาบ้านปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม จีนยังมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีน ไต้หวัน และสหรัฐฯ ที่อาจรุนแรงขึ้น”
สำหรับกองทุนแนะนำ ได้แก่ MCHINA, MCHEVO
ปิดท้ายจากมุมมอง “บลจ.อีสท์สปริง” ที่เห็นแนวโน้มเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน หลังจากรัฐบาลมีนโยบายผ่อนคลายมาตรการ covid-zero อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2566 แม้ว่าในระยะสั้นตลาดอาจผันผวนจากความกังวลสถานการณ์การระบาดที่เลวร้าย นอกจากนั้นเริ่มเห็นการปรับคาดการณ์กำไรเพิ่มขึ้นสำหรับหุ้นขนาดใหญ่ทั้งกลุ่ม Onshore และ Offshore แนะนำ “เริ่มทยอยสะสมหุ้นจีน” โดยเน้นไปที่หุ้นขนาดใหญ่