PTT- PTTEP วิ่งนำตลาด นักวิเคราะห์ดาหน้าคำแนะนำเป็น”ซื้อ” ปตท.สผ.เอเอสแอลให้ราคาเป้าหมาย 158 บาท เอเชียเวลท์ ให้ 170 บาท เพิ่มจาก 145 บาท กำไรไตรมาส 3 เติบโต ต่อเนื่องถึงปีหน้า มีปัจจัยหนุน
วันที่ 10 ต.ค.2561 นักลงทุนให้ความสนใจหุ้น บริษัทปตท.(PTT) และบริษัทปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) ส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้น 2% โดยนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน และราคาเป้าหมายในปี 2562 ส่วน PTT ซื้อรอรับเงินปันผลหุ้นละ 0.80 บาท จะขึ้นเครื่องหมาย XD ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 11 ต.ค.นี้
บล.เอเอสแอล ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จาก”เก็งกำไร”หุ้น PTTEP ให้ราคาเป้าหมาย 158 บาท คาดว่ากำไรสุทธิ 3/2561 ฟื้นจากราคาน้ำมันและยอดขายเพิ่มขึ้น แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาสที่ 4 ยังเติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยบวกเดิม ลุ้นผลประมูลแหล่งบงกชปลายปี 2561 สนับสนุน ทำให้ PTTEP ยังคงมีความน่าสนใจในการลงทุน
“เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบไตรมาสที่ 2 จำนวน 3,600 ล้านบาท และพลิกจากผลขาดทุน 8,700 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 3 “บล. เอเอสแอลระบุ
แนวโน้มผลประกอบการได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า 1.05 บาทต่อดอลลาร์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 32.97 บาท ลดผลกระทบจาก Deferred Tax ที่ส่งผลกระทบในผลประกอบการไตรมาส 2 อย่างมีนัยสำคัญ
การฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยไตรมาส 3 อยู่ที่ 77.3 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 7.2% จากไตรมาสที่ 2 และเพิ่มขึ้นถึง 53.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2560 คาดว่าราคาขายก๊าซฯ จะยังทรงตัวในระดับสูง บริษัทจะมีราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ (ASP) อยู่ที่ 48.3 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.9% จากไตรมาส 2 และเพิ่มขึ้น 24.5%จากระยะเดียวกันปีก่อน และยอดขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวันที่ 3.08 แสนบาร์เรลต่อวัน ก็เติบโต 1.7% จากไตมาส 2 และเพิ่มขึ้น 3.3% จากในช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการ
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง ราคาน้ำมันยังปรับเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 82.1 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 6.2% จากไตรมาส 2 และเพิ่มขึ้น 38.5%เทียบกับไตรมาส 4 ปีก่อน ส่วนการประมูลแหล่งบงกช คาด PTTEP มีโอกาสชนะประมูล จะได้ข้อสรุปภายใน ธ.ค.นี้ และจุดที่น่าสนใจ ยังคงคาดหวังว่า PTTEP จะได้สิทธิ 25% ในโครงการเอราวัณ ในฐานะตัวแทนของภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเริ่มจำกัด แต่ยังน่าสนใจ ปรับใช้มูลค่าเหมาะสมของปี 2562 ที่ระดับ 158 บาท ยังไม่รวมงานประมูลโครงการบงกชที่คาดไว้ 20 – 22 บาท ในช่วงที่ราคาหุ้นปรับลดลงกว่า 9.4% ในรอบสัปดาห์ มองเป็นจังหวะที่ดีต่อการเข้าลงทุน
ทางด้านบล. เอเชีย เวลท์ ได้เปลี่ยนคำแนะนำจาก”ถือ” เป็น “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 170 บาท จาก 145 บาท โดยใช้วิธีอ้างอิงราคาน้ำมันดิบดูไบตามค่าเฉลี่ยใหม่ที่ 69 เหรียญสหรัฐฯ จากเดิม 63 เหรียญและคงประมาณการค่าเงินบาทไว้ที่ 32.50 บาท
คาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 3 เท่ากับ 11,885 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% ลดลง 2% จากไตรมาส 2 ปริมาณขายปิโตรเลียม 308,000 BOED เพิ่มขึ้นจาก 302,866 BOED ในไตรมาส 2 ส่วนไตรมาส 4 คาดไว้ที่ 336,500 BOED คาดราคาขายก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 6.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ MMBTU เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ 6.20 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ MMBTU
“คาดกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 3 เท่ากับ 11,885 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลง 2% จากไตรมาส 2 คาดว่ามีการรับรู้ผลขาดทุน 73 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการขายสัดส่วน Montara Project ออกไปแล้วทั้งหมด ชดเชยไปกับ ผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสก่อน พลิกกลับมาเป็นบวกในไตรมาสนี้ รวมรายการพิเศษนี้ไตรมาสนี้ราว ติดลบ 260 ล้านบาท” บล.เอเชีย เวลท์