หุ้นเช้านี้บวก 4.34 จุด ตลาดแกว่งไซด์เวย์-ปัจจัยในปท.หนุน

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 4.34 จุด แกว่งไซด์เวย์ กลุ่มพลังงานยังกดดันตลาดตามราคาน้ำมันที่ร่วงแรงต่อเนื่อง แต่คาดกลุ่มโรงไฟฟ้า-กลุ่มที่เกี่ยวกับการบริโภคยัง Outperform ได้ต่อเนื่องจากต้นทุนพลังงานลดลง และกำลังซื้อดีขึ้นเป็นบวกต่อเศรษฐกิจในประเทศ

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 6 ม.ค.2566 ณ เวลา 9.58 น. อยู่ที่ระดับ 1,668.20 จุด เพิ่มขึ้น 4.34 จุด หรือ +0.26% มูลค่าซื้อขาย 2,065.91 ล้านบาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองตลาดหุ้นวันนี้แกว่ง Sideways to Sideways Up กรอบ 1,665-1,680 จุด กลุ่มพลังงานต้น-กลางน้ำคาดว่ายังกดดันตลาดตามราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ยังร่วงแรงต่อเนื่องอีก 5% สู่ระดับ 77.84 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่คาดว่ากลุ่ม Anti-Commodity Play เช่น โรงไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคคาดว่าจะยัง Outperform ได้ต่อเนื่องจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง รวมถึงกำลังซื้อที่จะดีขึ้นทางอ้อมเป็นบวกต่อเศรษฐกิจภายในโดยเฉพาะด้านการบริโภคที่จะเป็นเครื่องยนต์หลักในการหนุนการเติบโตปีนี้

ขณะที่รายงานการประชุม FOMC เมื่อคืนโดยรวมไม่ได้มี Surprise ตลาด กรรมการส่วนใหญ่มองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะชะลอลงสอดคล้องกับ Dot Plot ที่คาดปรับขึ้นแตะ 5.25% และทรงตัวยาวตลอดทั้งปีนี้จนกระทั้งมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะชะลอลงสู่กรอบเป้าหมาย 2% ในระยะยาว ส่วนในประเทศวันนี้ติดตามเงินเฟ้อไทยเดือน ธ.ค. และการประชุม 4 หน่วยงานหามาตรการรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเริ่มเปิดประเทศวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวในระยะยาว โดยรวมยังชอบกลุ่ม Domestic/Consumption และ Reopening Play

Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนในภูมิภาคทรงตัว ฝั่งเอเชียตะวันออกไหลเข้าเกาหลีใต้แต่ไหลออกจากไต้หวันใกล้เคียงกันประเทศละราว 190 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน ไหลเข้าเวียดนาม ไทย และฟิลิปปินส์บางๆ แต่ไหลออกจากอินโดนีเซีย แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าค่อนมาในทิศทางไหลเข้าแต่ไม่หนาแน่นนัก โดยรายงานการประชุม FOMC โดยรวมไม่ได้มีข้อมูล Surprise ตลาด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
CPALL อยู่ที่ 70.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ +1.81% มูลค่าซื้อขาย 280.71 ล้านบาท
DELTA อยู่ที่ 804.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -0.25% มูลค่าซื้อขาย 171.07 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +0.98% มูลค่าซื้อขาย 96.39 ล้านบาท
BANPU อยู่ที่ 12.70 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ -0.78% มูลค่าซื้อขาย 72.87 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 167.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.59% มูลค่าซื้อขาย 65.10 ล้านบาท