“คิงส์ฟอร์ด” คาดแรงขายหุ้นพลังงานกดดัชนี แนะ PLANB-SHR

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” คาดแนวโน้มหุ้นวันนี้ถูกกดดันจากแรงขายกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรง วางแนวรับ 1,668 จุด ยืนได้ต่อพอร์ต ส่วนแนวต้านแรก 1,680 จุด คาดนักลงทุนสลับเข้ากลุ่มแบงก์ ค้าปลีก โรงไฟฟ้า ท่องเที่ยว แนะเก็งกำไร BGRIM, GPSC, BBL, KBANK, SCB, ERW, MINT, CENTEL, COM7, BJC, HMPRO พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่น PLANB, SHR

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มหุ้นวันนี้ วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,668 จุด ยืนได้ต่อพอร์ต โดยมีแนวต้าน 1,680 – 1,694 จุด คาดมีแรงขายจากกลุ่มพลังงาน และสลับเข้ากลุ่มธนาคาร ,ค้าปลีก, โรงไฟฟ้า, ท่องเที่ยว แนะนำซื้อเก็งกำไร BGRIM, GPSC, BBL, KBANK, SCB, ERW, MINT, CENTEL, COM7, BJC, HMPRO

ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.40%,S&P500 +0.75%,Nasdaq +0.69% กลุ่มอสังหา +2.28%, วัสดุ +1.74%, เทคโนโลยี +0.26% และธนาคาร +1.90% หลังคณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นควรชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ส่วน ISM ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐ ธ.ค. ลดลงอยู่ที่ 48.4 & พ.ย.49.0 ขณะที่ JOLTS เผยยอดเปิดรับสมัครงานลดลง 54,000 อยู่ที่ 10.458 ล้านราย สูงกว่าคาด 10 ล้านราย

ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.38% ได้แรงจากสินค้าหรูหรา, ธนาคารและประกัน หลัง CPI ฝรั่งเศส ธ.ค. ชะลอตัวอยู่ที่ 5.9% & พ.ย. 6.2% YoY

หุ้นเด่นแนะนำวันนี้ ได้แก่ PLANB (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.20 บาท) บริษัทรายงานผลประกอบการ 3Q65 ดีขึ้น QoQ, YoY จากอุตสาหกรรมสื่อโฆษณานอกบ้านที่ฟื้นตัวหลังผ่อนคลายล็อกดาวน์และได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่จำกัด ส่งผลให้รายได้สื่อโฆษณาทุกหมวดปรับตัวดีขึ้น โดยมีอัตราการใช้สื่อโฆษณา U-Rate อยู่ที่ 62% เพิ่มขึ้นเทียบกับ 2Q65 ที่ 57% และ 3Q64 ที่ 34% ส่วนแนวโน้ม 4Q65 เม็ดเงินโฆษณาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อานิสงส์จาก High Season คนออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านและการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว

นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จาก Synergy ป้ายของ AQUA และดำเนินการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิด Economies of scale โดยจะมุ่งเน้นการเพิ่ม U-Rate และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ป้ายโฆษณาที่มีอยู่ ทั้งปี 65 ผู้บริหารคาดรายได้รวมมากกว่า 5.8 พันล้านบาท บน Media Capacity 8.6 พันล้านบาท โดยมี U-Rate เฉลี่ย 60%

หุ้น SHR (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 4.92 บาท) คาดภาพการดำเนินงาน 4Q65 จะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจาก 3Q65 ที่สามารถกลับมามีกำไรได้หลังจากขาดทุนในช่วง Covid-19 โดยในส่วนของ 4Q65 จะได้แรงหนุนจากพอร์ตโรงแรมในไทย(ซึ่งนักท่องเที่ยวกลับมาเดือนละ > 1.4 ล้านราย) และ โรงแรมในมัลดีฟส์(เข้าสู่ High Season)

สำหรับการดำเนินงานในปีหน้าคาดว่าพอร์ตโรงแรมยังคงจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง REVPAR มีโอกาสปรับตัวสูงกว่าระดับ PreCovid-19 ในปี2019 จากการปรับราคาห้องที่สูงขึ้นใน UK และนโยบายการกระตุ้นการท่องเที่ยวในไทยและมัลดีฟส์ ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี65 SHR* จะขาดทุนลดลงมาอยู่ที่ 90.9 ล้านบาท (จากขาดทุนปี64 1.2พันล้านบาท) และจะพลิกมีกำไรในปี 66 ที่ 318.2 ล้านบาท