HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 5.72 จุด ตามหุ้น DELTA ที่ปรับฐานหลังขึ้นไปมาก และได้แรงฉุดจากหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย ท่ามกลางแรงเก็งกำไรจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,134.39 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,588.80 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้แกว่งตัว แต่ก็ขึ้นอยู่กับหุ้น DELTA ถ้ายังมีแรงขาย ตลาดก็ไปต่อได้ยาก แนวรับ 1,660 แนวต้าน 1,680 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 4 ม.ค.2566 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,673.25 จุด ลดลง 5.72 จุด หรือ -0.34% มูลค่าซื้อขาย 76,428.64 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,685.11 จุด ต่ำสุด 1,668.07 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 121.17 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 575.58 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,588.80 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,134.39 ล้านบาท
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้เป็นขาลงตามราคาหุ้น DELTA ที่ปรับฐานหลังขึ้นไปมากแล้ว และหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ก็โดนดึงลงจากความกังวลเศรษฐกิจโลก แต่ตลาดฯก็ได้รับแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคาร คาดว่าจะเก็งงบฯไตรมาส 4/65 และยังได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นด้วย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ส่วนตลาดในยุโรปเปิดเทรดบ่ายเคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อยในช่วงรอติดตามคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมคืนนี้ ให้จับตาท่าทีเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนม.ค.หรือไม่ และติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัรฐที่จะออกมาในวันที่ 6 ม.ค.นี้ รวมถึงติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทยที่คาดว่าจะออกมาในวันพรุ่งนี้ (5 ม.ค.)
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (5 ม.ค.) ตลาดคงจะแกว่งตัว แต่ก็ขึ้นอยู่กับหุ้น DELTA ถ้ายังมีแรงขาย ตลาดก็ไปต่อได้ยาก พร้อมให้แนวรับ 1,660 จุด แนวต้าน 1,680 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA ปิดที่ 912.00 บาท ลดลง 18.00 บาท หรือ -1.94% มูลค่าซื้อขาย 9,094.32 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 12.80 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ -4.48% มูลค่าซื้อขาย 3,961.81 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.68% มูลค่าซื้อขาย 3,462.88 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 167.00 บาท ลดลง 8.00 บาท หรือ -4.57% มูลค่าซื้อขาย 3,095.68 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.66% มูลค่าซื้อขาย 2,061.96 ล้านบาท